‘คารม’ โต้ ‘ศิริกัญญา’ กรณีเตรียมยื่นศาลปกครองระงับงบดิจิทัลวอลเล็ต แนะดูข้อกฎหมาย

‘คารม’ โต้ ‘ศิริกัญญา’ กรณีเตรียมยื่นศาลปกครองระงับงบดิจิทัลวอลเล็ต แนะดูข้อกฎหมายให้รอบคอบ ลั่น เป็นวิธีทำงานที่ใจไม่กว้าง ไม่ก้าวไกล ไม่ก้าวหน้า

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ฟัง นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล พูดในรายการข่าวทีวีช่องหนึ่งว่าจะไม่รับงบฯ ปี 68 จะรอให้ผ่านวาระ 3 ก่อนถึงจะยื่นศาลปกครอง ระงับเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในฐานะที่เคยเป็น สส. เคยร่วมพิจารณางบประมาณหลายปี แม้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ประจำปี จะผ่านวาระ 3 แล้วก็ตาม ก็ยังไม่เป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ เพราะสุดท้ายก็ต้องไปวุฒิสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงจะเป็นกฎหมายใช้บังคับได้

อย่างไรก็ตาม มาตรา 9 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ก็ไม่ได้เปิดช่องให้ทำได้แต่อย่างใด หากจะพอกล้อมแกล้มให้ฝ่ายค้านได้เดินหน่อยก็มีมาตรา 11 (2) แต่ก็ไปได้ยากมาก อีกทั้งงบประมาณแผ่นดินแม้จะออกไม่ทันในปีงบประมาณ มาตรา 141 ของรัฐธรรมนูญ ก็เขียนไว้ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายของปีก่อนได้

นายคารม กล่าวถึงวิธีการของพรรคก้าวไกลที่แสดงผ่านศิริกัญญาว่า เป็นวิธีการทำงานที่ใจไม่กว้าง ไม่ก้าวไกล ไม่ก้าวหน้า และไม่ก้าวใหม่ ความจริงในพรรคก้าวไกลก็มี สส.ก้าวไกลเป็นกรรมาธิการอยู่แล้ว เช่น นายวีระ ธีระภัทร อุตส่าห์นำมาเป็นกรรมาธิการ ก็ควรใช้โอกาสนี้ในการปรับลดอะไรให้เต็มที่ เมื่อตกผลึกแล้วจะได้งบประมาณที่สมบูรณ์ นำมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประชาชนได้รับประโยชน์ตามกำหนดเวลา

“การจะอ้างว่าร่างกฎหมายงบประมาณปี 68 ขัดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญก็มีรัฐธรรมนูญมาตรา 148 ที่ให้ สส. หรือ สว. 1 ใน 10 เสนอว่าร่างขัดต่อรัฐธรรมนูธหรือไม่ ให้ประธานสภาใดสภาหนึ่งยื่นศาลรัฐธรรมได้ พอให้ไปศาลรัฐธรรมนูญได้ ถ้าทำแบบนี้ ยังจะพอเหมาะสมกับความเป็นผู้นำพรรคการเมืองหน่อย แต่การที่คนของพรรคก้าวไกลซัดศาลรัฐธรรมนูญไว้มาก เลยไม่อยากใช้บริการ การแสดงความคิดของระดับผู้นำพรรคที่แสดงออกมาจึงไม่รอบด้าน และออกจะขาดมาตรฐานไปหน่อย เหมือนกับตอนที่เคยเสนอแก้ไข ปอ.112 ในสภาฯ สุดท้ายพรรคก็ต้องมาลำบากเพราะความไม่รอบด้าน” นายคารม กล่าว