POLITICS

‘เสรีพิศุทธ์’ กังขา ‘ประชาชน’ อาจฮั้ว ‘เพื่อไทย’ ปมยื่นถอดถอน ครม.

วันนี้ (26 เม.ย. 68) ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร พรรคเสรีรวมไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานของพรรคและแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า พรรคเสรีรวมไทยจะยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป โดยยึดหลักความตรงไปตรงมา และเห็นว่าพรรคจำเป็นต้องทำงานเพื่อประเทศชาติและสังคมอย่างแท้จริง เนื่องจากมองว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ในสภาปัจจุบันมุ่งหาประโยชน์ส่วนตน มีการทุจริต และขัดแย้งแย่งชิงตำแหน่งมากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยได้กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักกฎหมายยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะของนายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รวมถึง สส. และ สว. ชุดปัจจุบันทั้งหมด โดยอ้างเหตุผลว่าการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 โดยตัดงบประมาณหรือใช้เงินกู้ 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการแปรญัตติงบประมาณปี 2568 ไปเพิ่มในกองทุนเพื่อผู้ที่เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา อาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน และสะท้อนว่าคณะรัฐมนตรีมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความเห็นว่า การยื่นเรื่องผ่าน ป.ป.ช. อาจทำให้เกิดความล่าช้า เนื่องจาก ป.ป.ช. มีภารกิจจำนวนมาก และเห็นว่าควรยื่นเรื่องผ่าน สส. และ สว. เพื่อส่งตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ได้รับทราบข้อมูลจากนายสมชาย แสวงการ สว. ว่าได้มีการพูดคุยกับ สส. และ สว. บางส่วนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่ยังไม่มี สว. หรือ สส. จากพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาชน ร่วมลงชื่อในคำร้องดังกล่าว โดยกล่าวว่า “ตอนนี้มีแต่ สว.สายสีน้ำเงินก็ไม่มีใครยอมลงชื่อ ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนก็ไม่ยอมลงชื่อเช่นกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีการฮั้วหรือไม่ พรรคประชาชนทำเพื่อประชาชนจริงหรือไม่ หรือสุดท้ายก็ฮั้วกับพรรคเพื่อไทยหลอกลวงประชาชนไปเรื่อย”

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า พรรคเสรีรวมไทยจะยังคงทำงานต่อไป เพราะเชื่อว่าการทำงานทำให้ไม่หยุดนิ่งทางความคิดและส่งผลดีต่อสุขภาพ พร้อมกันนี้ได้กล่าวเปรียบเทียบถึงบุคคลที่อ้างว่าใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเลี้ยงดูหลาน แต่กลับปรากฏตัวทำกิจกรรมต่างๆ ในที่สาธารณะอยู่เสมอ โดยระบุว่าไม่เคยเห็นภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเลี้ยงหลานเลย

Related Posts

Send this to a friend