POLITICS

วงผู้ประกอบการประมง เผย ไทย ไม่เน้นส่งออกอาหารทะเล เน้นนำเข้าจากต่างประเทศ

แนะ ‘เพื่อไทย’ ดันเขตเศรษฐกิจพิเศษดึงดูดท่องเที่ยวมากกว่าเน้นนิคมอุตสาหกรรม เศรษฐา ย้ำ เพื่อไทยพร้อมเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศไม่ว่าจะมี ส.ส.ใต้หรือไม่

วันนี้ (26 เม.ย. 66) ที่โรงแรม เดอะ ซิงกอรา อ.เมือง จ.สงขลา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคเพื่อไทย ร่วมวงหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการประมง และนักธุรกิจใน จ.สงขลา เพื่อยกระดับการค้าขาย และการส่งออก

ตัวแทนผู้ประกอบการประมง ระบุว่า เมื่อปี 2558 มีการส่งออกอาหารทะเล 2 แสนล้านบาท จากนั้นมาประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นการนำเข้าอาหารทะเล มากกว่าการส่งออก และที่ผ่านมาก็ได้เสนอปัญหาระดับมหภาค 5 ข้อให้กับพรรคเพื่อไทยมาแล้ว ส่วนผลกระทบจาก พ.ร.บ.ประมง ก็พบว่ายังมีอุปสรรคจากกรณีถ้าแอบนำเรือออกไป ถ้าคนไม่ครบก็จะถูกด้วยปรับ 4 แสนล้านบาท อย่าง จ.สุราษฎร์ธานีเคยถูกปรับกว่า 130 ล้านบาท

“ทุกวันนี้ที่บริโภคอาหารทะเลอย่าคิดว่ามาจากบ้านเรา ปลากระพงมาจากมาเลเซีย ปลาทูมาจากอินเดีย ส่วนปลาหมึกนำเข้าจากจีนทั้งนั้น ท่านบริโภคอาหารทะเลจากต่างประเทศทั้งนั้น นี่คือความน้อยเนื้อต่ำใจ ท่านกินจากร้านอาหารอย่าคิดว่ามาจากเมืองไทย มีการซื้อต่างประเทศแล้วถูกกว่า เรือประมงไทยต้องตรวจสุขลักษณะเก็บสัตว์น้ำ ถ้าผิดสุขลักษณะจะถูกยึดใบอนุญาต” ตัวแทนผู้ประกอบการประมง ระบุ

ตัวแทนผู้ประกอบการประมง จ.สงขลสา ย้ำว่า ต้องกระตุ้นการกินอาหารทะเล เพราะขณะนี้ประเทศไทยยังขาเคนหาเงินเข้าประเทศได้น้อย มีแต่คนใช้เงินเท่านั้น และยังมองว่าพรรคการเมืองที่ดีที่สุดตอนนี้คือ พรรคเพื่อไทยที่จะเปลี่ยนแปลงได้

นอกจากนั้น ผู้ประกอบการประมงยังสะท้อนพรรคเพื่อไทยว่า 1. ปัญหา พ.ร.บ.ประมง ยังมีอัตราโทษสูง 2.ที่มีการแก้ไขในสภาฯ เรื่อง พ.ร.บ.แรงงานคุ้มครองแรงงาน พ.ร.บ.นี้ให้สิทธิด้านแรงงานจูงใจในการทำงานมากกว่าหน้าที่ 3.ปัญหาราคาสินค้าไม่เป็นไปตามกลไกตลาด ดังนั้นราคาสินค้าจะถูกกำหนด 4.ปัญหาต้นทุนสูงในแง่กฎหมายที่เพิ่มภาระต้นทุน อีกทั้งยังเสนอให้ยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดินนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องโลจิสติกส์ ที่มีการสร้างรายได้ปีละ3-4 แสนล้านบาท โดยผู้ประกอบการเสนอว่าควรปรับให้ด่านศุลาการใหม่เป็นโลจิสติกส์ และด่านปัจจุบันเป็นด่านการค้าและการท่องเที่ยว

นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ภายใน 1 สัปดาห์ พรรคเพื่อไทยจะออกข้อสรุปจากผู้ประกอบการประมง 5 จังหวัด ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันให้เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จากนี้ไปภายใน2 สัปดาห์จะมีจะมีข้อสรุปออกจากพรรคเพื่อไทยและช่องทางของตนด้วย

นาบเศรษฐา กล่าวต่อว่า ต้องลดขั้นตอนการเดินทางของคนมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยด้วย ส่วนเรื่องเศรษฐกิจเขตพิเศษนโยบายของพรรคเพื่อไทยมองว่า จ.สงขลาก็เป็นจังหวัดที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่ต้องมีรายละเอียดซึ่งการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจะต้องดูธุรกิจ และวิถีชีวิตในพื้นที่อย่างไร โดยจะส่งทีมงานมาพูดคุยให้มีความเหมาะสมต่อไป และจะหยิบยกมาผลักดันให้คนต่างประเทศและคนไทยมาเที่ยว เพราะจ.สงขลาเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้

นายเศรษฐา ระบุทิ้งท้ายว่า มีหลายท่านมีความผูกพันกับพรรคการเมืองในพื้นที่และหลายชั่วอายุคน ซึ่งพรรคเพื่อไทยสัญญาว่าจากผลโพลออกมาพรรคเพื่อไทยสามารถเป็นพรรคการเมืองหลักในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งต้องดูว่าจะมี ส.ส.กี่เสียง ถึงแม้จะไม่มี ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่จะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคนและทุกภาค ยืนยันการประมงเป็นเรื่องใหญ่แม้จะมี ส.ส.หรือไม่มี ส.ส. โดยตนมาภาคใต้ครั้งนี้มาขอแบ่งปันความรัก โดยพรรคเพื่อไทยจะนำประเทศให้ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งต้องส่งต่อให้คนทำงาน ตนมาขอโอกาสไม่ได้ว่ากล่าวรัฐบาลก่อน แต่มาขอเสียงว่าจะทำอะไร ดังนั้น ไม่ว่าจะมี ส.ส.หรือไม่มี ส.ส. ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะทำตามข้อเสนอที่ผู้ประกอบการได้สะท้อนมา

Related Posts

Send this to a friend