กมธ.มั่นคงฯ ยื่นร่างฯ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ดึงอัยการร่วมทำสำนวนคดีตั้งแต่ต้น ลดปัญหาคดีอ่อน-แพะรับบาป-คอรัปชั่น

วันนี้ (26 ก.พ. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ …) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ต่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 จำนวน 2 ฉบับ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เป็นการทำให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากยิ่งขึ้น หากร่างนี้มีการบังคับใช้เป็นกฎหมาย ทั้งอัยการและตำรวจจะทำสำนวนคดีร่วมกัน ปัญหาอย่างหนึ่งของบ้านเราคือตำรวจทำสำนวนไปส่งให้อัยการ บางครั้งอัยการตีกลับ วิธีการแบบนี้บางครั้งไม่ได้เป็นการคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชน ยิ่งกว่านั้นเมื่อตำรวจส่งสำนวนให้อัยการ บางอัยการที่ไม่ได้ทำสำนวนมาแต่ต้นก็ไม่ทราบในรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งการร่วมกันทำตั้งแต่ต้นจะเป็นการยกระดับกระบวนการยุติธรรม

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คนที่เซ็นชื่อในกฎหมายฉบับนี้มีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จึงเห็นได้ว่ากฎหมายฉบับนี้ทุกฝ่ายเห็นด้วย และจากนั้นจะประสานไปยังคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อผลักดันเข้าสู่วาระการประชุมสภาที่เร็วที่สุด หากทำสำเร็จจะเป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมครั้งใหญ่

พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ในฐานะที่ปรึกษา กมธ. กล่าวว่า ร่างดังกล่าวเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนว่าด้วยการสอบส่วนประมาณ 5-6 มาตรา ที่สำคัญ ซึ่งปัญหาที่มีทั้งแพะ อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือศาลยกฟ้อง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากกฎหมายนี้ผ่าน

สาระสำคัญเรื่องการตรวจสอบการสอบสวนที่ปัจจุบันตำรวจกับอัยการคนละส่วนกัน จะจริงหรือเท็จอย่างไรอัยการก็ต้องสั่งฟ้องตามที่ตำรวจเสนอ แล้วไปว่ากันในชั้นศาล หลักคิดที่บอกว่าผิดถูกค่อยไปว่าในชั้นศาลจะเปลี่ยนแปลงไป ผิดถูกต้องว่ากันในชั้นสอบสวน พนักงานอัยการต้องมีหน้าที่เข้าตรวจสอบคดีสำคัญ โดยเฉพาะคดีฆ่าคนตายต้องเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ หรือคดีที่มีปัญหา อัยการต้องเข้าตรวจสอบได้หมด เพื่อแก้ปัญหาตำรวจไม่รับแจ้งความหรือไม่รับคำร้องทุกข์ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราใช้ระบบแยกชั้นตำรวจและอัยการ ต้องยอมรับว่ามีปัญหาจริง ซึ่งตนเองคิดว่าการแก้กฎหมาย ทำให้โอกาสที่จะมีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือจ่ายเงินให้กับทุกคนจะยากขึ้น เพราะทุกคนเห็นพยานหลักฐานเห็นข้อเท็จจริงต่าง ๆ ไปพร้อมกัน รู้กันในระดับที่พอกัน และโอกาสที่จะซื้อปิดบังพยานหลักฐานไม่ให้เข้าสู่สำนวนจะทำได้ยากขึ้น โอกาสที่จะป้องกันการคอรัปชั่นจะมีสูงกว่า