‘ชัยธวัช’ แจงปมพบอดีตพระพุทธอิสระ คุยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
วันนี้ (25 พ.ย.66) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก้าวไกล พบ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม และอดีตแนวร่วม กปปส.เพื่อหารือและสอบถามความเห็น ขอเสียงสนับสนุนกรณีที่พรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า จากที่พรรคก้าวไกลได้เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คดีทางการเมืองไป ในระหว่างที่รอกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรก็พยายามพูดคุยกับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจถึงเนื้อหาและเจตนาของร่างกฎหมาย เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการปรองดอง และทำให้เกิดความเข้าใจทางการเมืองระหว่างผู้เห็นต่าง และผู้ที่เคยมีความเห็นแย้งทางการเมืองในรอบ 18 ปี ซึ่งไม่ใช่พูดคุยกับอดีตพระพุทธอิสระเท่านั้น แต่พูดคุยทั้งกลุ่มอดีตเสื้อแดง อดีต กปปส. นักกฎหมาย นักวิชาการ หรือผู้ที่เคยมีข้อเสนอการปรองดองและนิรโทษกรรมมาในอดีต เพื่อให้การนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองเกิดขึ้นได้จริง ในอนาคตจะมีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง และพรรคการเมืองด้วย
ประชาชนไม่ว่าจะเคยอยู่ฝั่งใดหรือสีใดที่ร่วมการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองล้วนแต่คิดว่าตนเองกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ต้องหันหน้ามาปรองดองกัน ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยหาข้อยุติความขัดแย้งและความเห็นต่าง ถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนความยุติธรรมให้กับทุกคน เพราะขณะนี้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากหลายร้อยคน และคดีที่จบไปแล้วก็หลายพันคน ได้เวลาที่จะคืนความยุติธรรมให้กับทุกคนที่ไม่ใช่เพียงคนใดคนหนึ่งที่เป็นนักโทษทางการเมือง หรือมีคดีเพียงทางการเมืองแล้วได้รับความเป็นธรรมเพียงคนเดียว
เมื่อถามถึงความเห็นของอดีตพระพุทธอิสระเป็นเช่นไรนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่ามีการสอบถามถึงเจตนา หรือหากนิรโทษกรรมแล้วจะกลับไปมีความขัดแย้งเหมือนเดิมหรือไม่ มีกระบวนการอะไรที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเหมือนในอดีต
วันนี้ (25 พ.ย.66) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก้าวไกล พบนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม และอดีตแนวร่วม กปปส.เพื่อหารือและสอบถามความเห็น ขอเสียงสนับสนุนกรณีที่พรรคก้าวไกล เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า จากที่พรรคก้าวไกลได้เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมืองไป ในระหว่างที่รอกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรก็พยายามพูดคุยกับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจถึงเนื้อหาและเจตนาของร่างกฎหมาย เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการปรองดอง และทำให้เกิดความเข้าใจทางการเมืองระหว่างผู้เห็นต่าง และผู้ที่เคยมีความเห็นแย้งทางการเมืองในรอบ 18 ปี ซึ่งไม่ใช่พูดคุยกับอดีตพระพุทธอิสระเท่านั้น แต่พูดคุยทั้งกลุ่มอดีตเสื้อแดง อดีต กปปส. นักกฎหมาย นักวิชาการ หรือผู้ที่เคยมีข้อเสนอการปรองดองและนิรโทษกรรมมาในอดีต เพื่อให้การนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองเกิดขึ้นได้จริง ในอนาคตจะมีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง และพรรคการเมืองด้วย
ประชาชนไม่ว่าจะเคยอยู่ฝั่งใดหรือสีใดที่ร่วมการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองล้วนแต่คิดว่าตนเองกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ต้องหันหน้ามาปรองดองกัน ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยหาข้อยุติความขัดแย้งและความเห็นต่าง ถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนความยุติธรรมให้กับทุกคน เพราะขณะนี้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากหลายร้อยคน และคดีที่จบไปแล้วก็หลายพันคน ได้เวลาที่จะคืนความยุติธรรมให้กับทุกคนที่ไม่ใช่เพียงคนใดคนหนึ่งที่เป็นนักโทษทางการเมือง หรือมีคดีเพียงทางการเมืองแล้วได้รับความเป็นธรรมเพียงคนเดียว
เมื่อถามถึงความเห็นของอดีตพระพุทธอิสระเป็นเช่นไรนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่ามีการสอบถามถึงเจตนา หรือหากนิรโทษกรรมแล้วจะกลับไปมีความขัดแย้งเหมือนเดิมหรือไม่ มีกระบวนการอะไรที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเหมือนในอดีต
