POLITICS

‘เพิ่มพูน’ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมสถานศึกษาฯ กำหนดมาตรการฟื้นฟู-เยียวยา

‘เพิ่มพูน’ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมของหน่วยงาน และสถานศึกษาสังกัด​ ศธ. ทั่วประเทศ​ พร้อมกำหนดมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟู-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

วันนี้​ (25 ก.ย. 67) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมประสานภารกิจกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 33/2567​ ว่าการประชุมครั้งนี้ให้ความสำคัญกับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมของหน่วยงานและสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ โดยมีมาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหน่วยงาน​ สถานศึกษา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยของกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่

มาตรการที่ 1 การช่วยเหลือเยียวยานักเรียน นักศึกษา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง เป็น “ค่าหนังสือ ค่าเครื่องแบบนักเรียน และค่าอุปกรณ์การเรียน” ในอัตราเงินอุดหนุนรายหัว ของโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่นักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้ง สพฐ. สช. (ยกเว้นโรงเรียนนานาชาติ​ และ รร.ที่ไม่รับเงินอุดหนุน) สอศ.รัฐและเอกชน สกร. ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย

มาตรการที่ 2 การช่วยเหลือเยียวยานักเรียน นักศึกษา เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูอาคาร สถานที่ และวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน เป็น “ค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารเรียน สิ่งปลูกสร้าง ห้องน้ำ ห้องสุขา และสภาพแวดล้อม ถนน หรือพื้นที่ในบริเวณสถานศึกษาที่ใช้สำหรับการจัดการเรียนการสอน” แก่หน่วยงาน สถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้ง สป. สพฐ. สอศ. สช. และ สกร. ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ให้กลับสู่สภาพปกติ สามารถปฏิบัติงาน และจัดการเรียนการสอนได้

พล.ต.อ.เพิ่มพูน​ กล่าวต่อว่า​ สำหรับแนวทางการปฏิบัติ​ สามารถแบ่งได้ดังนี้

1.ให้โรงเรียนประกาศจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมของบริบทพื้นที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นสำคัญ ในระหว่างรอน้ำลดให้โรงเรียนพิจารณาให้นักเรียนแต่งกายมาโรงเรียนได้ตามความเหมาะสม ให้โรงเรียนสำรวจความเสียหายและแจ้งให้ต้นสังกัดทราบ เพื่อช่วยเหลือเยียวยา โดยระบุจำนวนผู้ได้รับความเสียหาย พร้อมระดับชั้นเรียนด้วย

ส่วนการประเมินระดับความเสียหายของหน่วยงาน สถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัย เพื่อการช่วยเหลือ ฟื้นฟู แบ่งเป็น 3 ระดับ สีแดง ส่งผลต่อโครงสร้างอาคาร ไม่สามารถใช้งานได้ สีเหลือง ส่งผลต่ออาคาร แต่เปิดใช้งานได้/ใช้ได้บางส่วน และสีเขียว ไม่ส่งผลต่ออาคาร ใช้ได้ปกติ

2.ความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา PISA ของ สพฐ. และ สสวท. การนำเสนอร่างแผนการจัดอบรมครู (ครูแม่ไก่) เพื่อสร้างให้เป็นนักสร้างข้อสอบตามแนวมาตรฐานสากล ปีงบประมาณ 2568 วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาไทย หลักสูตร 5 วัน จำนวน 8 รุ่น รุ่นละ 40 คนต่อวิชา รวม 960 คน

การติดตามการประชุมการถอดบทเรียนการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยชุดพัฒนาความฉลาดรู้ และ Computer Based Test ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาสังกัด สช.ในส่วนภูมิภาค​ และ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การวางแผนการนำชุดพัฒนาความฉลาดรู้ไปใช้ในห้องเรียน ภาคเรียนที่ 2/2567 การต่อยอดคุณภาพ โรงเรียนพี่-โรงเรียนน้อง Learn to earn การศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต

3.งบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการใช้จ่ายงบประมาณสูงสุดของหน่วยงานทั้งหมด 24 หน่วยงาน

4.คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กว่า 738 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจัดการเรียนการสอน โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุนเงินอุดหนุนทั่วไป

การปรับปรุงกฎและระเบียบในการปฏิบัติราชการ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วทันการณ์​ โดยให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีหน่วยงานในภูมิภาค มอบอำนาจให้หัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบภัยสามารถพิจารณาตัดสินใจในเรื่องใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ต้องประสบกับภัยธรรมชาติให้เท่าทันสถานการณ์ เช่น กรณีการปิดโรงเรียนของ ศธ.

นอกจากนี้ ให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการออกกฎ ระเบียบ และแนวทางปฏิบัติเพื่ออนุญาตให้บุคลากรในสังกัด สามารถเดินทางไปให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติได้ตามความจำเป็นเหมาะสมและความสมัครใจ โดยไม่ถือเป็นวันลา

Related Posts

Send this to a friend