POLITICS

‘พิธา’ เผยโทรยินดีนายกรัฐมนตรี ‘เศรษฐา’ ห่วงวิกฤตศรัทธาประชาชน

ชี้บุคคลเป็นรัฐมนตรีต้องเหมาะสมกับการแก้ปัญหา จะเป็นคนนอกมานั่งคุมก็ไม่เป็นไร ขอให้ทำตามนโยบายหาเสียง ย้ำพร้อมทำงานตรวจสอบถ่วงดุล

วันนี้ (25 ส.ค. 66) เวลา 13.05 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ช่วย นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย ผู้สมัคร สส.เขต 3 จ.ระยอง หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ว่า พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ยังมีหลายนโยบายที่ทำงานได้โดยการผลักดันกฎหมายเข้าสภา และยังมีกฎหมายสำคัญสำหรับชาวระยอง เช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อม PRTR และกฎหมายแรงงาน ซึ่งจะเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อให้ผลประโยชน์ตกกับประชาชนได้เหมือนเดิม แม้ไม่ 100% แต่หวังว่าจะเป็นการปูทางเมื่อการเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึง จะสามารถซื้อใจประชาชนได้มากกว่าเดิม

นายพิธา ระบุว่า ตนได้โทรไปยินดีและยืนยัน กับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วยตัวเอง ยืนยันว่าวิกฤตของบ้านเมืองไม่ใช่แค่วิกฤตเกี่ยวกับเศรษฐกิจ วิกฤตเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการศึกษาอย่างเดียว แต่เป็นวิกฤตศรัทธาของประชาชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการได้ฟังเสียงของประชาชนจากการลงพื้นที่ เป็นสิ่งที่ผู้นำคนต่อไปต้องแก้ไข โดยการรวมความคิดของคนในชาติให้กลับมาอยู่เป็นปึกแผ่นเดียวกันได้

“ได้ยินนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ท่านจะเป็นนายกของประชาชน ผมก็อวยพรว่าให้ท่านทำได้อย่างนั้นจริงๆ และตราบใดที่นายเศรษฐายังคำนึงอยู่ว่าอำนาจอธิปไตยสูงสุดเป็นของประชาชน แล้วทำหน้าที่โดยไม่ได้ใช้อำนาจอย่างเด็ดขาด แต่ฟังเสียงของประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนได้เยอะๆ ก็เชื่อว่านายเศรษฐาจะทำได้” นายพิธา กล่าว

ส่วนการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐาจะทำงานได้ยากหรือไม่เพราะมีการจับกันหลายขั้วและอาจจะมีการต่อรองกันสูง นายพิธา ระบุว่า คิดว่าคงยากเป็นพิเศษ ก็คงต้องดูโผ ครม.ที่ออกมา เท่าที่ติดตามดูในข่าวเห็นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทยบอกว่าจะออกมาสัปดาห์หน้า ตนก็อยากจะฟังในสิ่งที่ตนและนายเศรษฐาเคยพูดร่วมกันในเวทีดีเบตหลายๆ เวที ที่พูดเรื่องการปฏิรูปกองทัพ และการสมรสเท่าเทียม และสุราก้าวหน้า ก็ต้องดูว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม และคนที่จะมาดูแลกระทรวงต่างๆ จะเป็นใคร จะผลักดันได้จริงหรือไม่ ซึ่งก็ยังหวังว่า การกู้วิกฤตศรัทธาที่ตนมองว่าเป็นวิกฤตที่เข้ามาเพิ่มเติมตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จะเกิดการแก้ไข และเรียกศรัทธาให้กลับมาสู่การเมืองไทย ส่วนตัวก็ยังยืนยันที่จะทำงานตรวจสอบถ่วงดุลเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างบริสุทธิ ยุติธรรม และปราศจากคอรัปชั่นให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากดูหน้าตาของรัฐมนตรีตามโผ ครม.แต่ละกระทรวงที่ออกมาตอนนี้แล้ว มีความเป็นห่วงกระทรวงไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า เป็นห่วงทุกกระทรวง เพราะแต่ละกระทรวงมีปัญหาหลายเรื่อง และเรื่องเศรษฐกิจก็ต้องทำงานแบบมหภาค ซึ่งต้องมีการทำงานร่วมกันหลายกระทรวง หลายอันก็เป็นห่วงว่าบุคลากรจะเหมาะสมหรือไม่ เพราะพอต่างพรรคกันการแก้ปัญหาไม่ใช่แค่ทีละกระทรวง แต่จะทำงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่กังวล

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นคนนอกไม่ได้มาจากพรรคการเมืองนั้น มีความกังวลหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า การตั้งรัฐมนตรีจะคนในหรือคนนอกไม่ได้สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าสามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้หรือไม่ และถ้ามีความคิดที่ตรงข้ามกันกับนิยามของความมั่นคง หรือจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติมีความมั่นคง ต้องมีบุคลากรที่เข้าใจ เรื่องนิยามทางความมั่นคงที่ท้าทายในศตวรรษที่ 21 จริงๆถึงจะทำได้ และทำอย่างไรให้ตรงกับศรัทธาของประชาชนที่เคยให้ไว้ และความท้าทายจากทั่วทุกสารทิศ ดังนั้นจะคนในหรือคนนอกก็คงไม่สำคัญ

นอกจากนี้ นายพิธา ยังยืนยันว่า พรรคอนาคตไกลที่เป็นกระแสข่าว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล

Related Posts

Send this to a friend