POLITICS

‘โรม’ เผย ‘ก้าวไกล’ เตรียมชงสภาฯ ทบทวนมติ ปลดล็อกเลือกนายกฯ

‘โรม’ เผย ‘ก้าวไกล’ เตรียมชงสภาฯ ทบทวนมติ ปลดล็อกเลือกนายกฯ เชื่อหาก 8 พรรคจับมือแน่น จะไม่มีกลไกข้ามขั้ว-ความแตกแยก

วันนี้ (25 ก.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่าเดิมทีวันนี้พรรคก้าวไกลได้จัดประชุม สส.เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่การประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค.นี้ สุดท้ายงดประชุม ที่ประชุมวันนี้จึงมีข้อถกเถียง หลายประเด็น

1.การประชุมรัฐสภา ในวันที่ 27 ก.ค.66 มีวาระ 2 วาระ ได้แก่วาระการเลือกนายกรัฐมนตรี และวาระที่พรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 สุดท้ายงดประชุม ไม่สามารถพิจารณาวาระใดได้ เรามีความจำเป็นต้องเลือกนายกฯ อย่างเร่งด่วน ไม่สามารถรอคอยได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้การพิจารณาเลือกนายกฯ ช้าออกไป

2.แม้จะอ้างสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยกรณีสภาฯ มีมติโหวตชื่อนายพิธา ลื้มเจริญรัตน์ เป็นญัตติซ้ำ ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่เหตุใดไม่นำวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพิจารณา เป็นการหาทางออกให้ สว.เดินหน้าออกจากความขัดแย้งเรื้อรัง

3.การรอคอยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือกนายกฯ อยู่บนพื้นฐานความไม่แน่นอน ทำให้การเลือกนายกฯ เนิ่นช้า สภาฯ ไม่สามารถหาทางออกให้สังคม

พรรคก้าวไกลเชื่อมั่นการทำงานสภาฯ การโหวตนายกครั้งที่ 2 สภามีมติเสนอชื่อซ้ำไม่ได้ แต่วันนี้กระจ่างแล้วว่าการตีความเช่นนั้นไม่ถูกต้อง มีการร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งเราไม่อยากให้แทรกแซงสภาฯ โดยศาลรัฐธรรมนูญอีกแล้ว พรรคก้าวไกลขอเสนอทางออกโดยการพิจารณาข้อบังคับการประชุม สามารถยื่นญัตติให้สภาฯ ทบทวนมติที่เคยมีไปแล้วได้ สิ่งใดที่ปฏิบัติผิดสามารถทบทวนได้เสมอ โดยการประชุมสภาฯ นัดถัดไป พรรคก้าวไกลจะยื่นญัตติให้พิจารณาทบทวน หากสภาฯ เห็นด้วย จะถือเป็นการปลดล็อกทำให้การเลือกนายกฯ ที่ผูกพันกับญัตติเดิม สามารถเสนอบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ ซ้ำได้

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีความคิดที่จะเสนอชื่อนายพิธาซ้ำไหม นายรังสิมันต์ กล่าวว่าพรรคก้าวไกลให้พรรคเพื่อไทยเสนอบุคคลที่มีความเหมาะสมดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคือ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งต้องดำเนินไปตามนั้น การเสนอของเราเป็นคนละเรื่องกัน เป็นการเสนอเพื่อปลดล็อกสิ่งที่ผิดพลาด สภาฯ ไม่จำเป็นต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เราสามารถดำเนินการกันเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนจะเป็นการตอกย้ำหรือไม่ว่าการให้เก้าอี้ประธานสภาฯ กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นข้อผิดพลาด นายรังสิมันต์ กล่าวว่าต้องพิจารณาบริบทต่าง ๆ ณ ตอนนั้นมีความเห็นเรื่องผู้ที่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ไม่ตรงกัน การถอยคนละก้าว เพื่อให้นายวันมูหะมัดนอร์เข้ามาเป็นประธานสภาฯ ท่านมีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คงไม่สามารถไปวิจารณ์การทำหน้าที่ได้ ประชาชนต้องช่วยกันพิจารณา ยืนยันว่าการเสนอให้ทบทวนมติอีกครั้งจะเป็นทางออกให้กับทุกฝ่าย ให้เรากลับคืนสู่ทางที่ถูกต้อง

ส่วนจะทำให้เรื่องที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญถูกตีตกไปด้วยหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงต้องพิจารณาในข้อกฎหมาย มองว่าข้อเสนอของพรรคก้าวไกลควรเร่งทำ

ขณะที่การปลดล็อกข้อบังคับรัฐสภา ข้อที่ 41 จะทำให้เสนอนายพิธา ซ้ำได้ จะทำให้น้ำหนักการจัดตั้งรัฐบาลกลับมาที่พรรคก้าวไกลหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ควรให้มีการโหวตเลือกนายกฯ ก่อนว่าสำเร็จหรือไม่ แล้วค่อยมาหารือกับ 8 พรรคร่วม และต้องสร้างความเขื่อมั่นให้กับประชาชนว่าเลือกตั้งมาแล้วจะเปลี่ยนแปลงได้

“ผมไม่ได้บอกว่าให้รอถึง 10 เดือน แต่หาก 8 พรรคร่วมจับมือกันเข้มแข็งเพียงพอ เชื่อว่าถึงที่สุดฝ่ายที่พยายามทำให้เราแตกแยก ใช้กลไกข้ามขั้วจะไม่มีทางเกิดขึ้น ระยะเวลา 10 เดือนอาจไม่ใช่ 10 เดือนจริง ๆ”

ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้ความเห็นว่าพรรคก้าวไกลควรถอยออกมา หลังพรรคเพื่อไทยได้นายกฯ อาจจะดึงพรรคก้าวไกลกลับไปร่วมรัฐบาล ถือเป็นความเห็นส่วนตัว ตนเองไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบ ขึ้นอยู่กับการหารือของ 8 พรรคร่วม ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

Related Posts

Send this to a friend