POLITICS

‘แทนคุณ’ ร้อง สภาฯ สอบ ‘พิธา’ ปมปล่อยเด็ก 10 ขวบขึ้นเวทีปราศรัย

‘แทนคุณ’ บุกสภาฯ ร้อง สอบ ‘พิธา’ ปมปล่อยเด็ก 10 ขวบขึ้นเวทีปราศรัย ‘ก้าวไกล’ – ‘สิริน’ ทำร้ายร่างกายแฟนสาว

วันนี้ (25 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภา เพื่อให้ตรวจสอบสอบจริยธรรม​ กรณีพรรคก้าวไกลใช้เด็ก​ 10 ขวบปราศรัย​ยุยงปลุกปั่นและสร้างความเกลียดชัง และ กรณีสส.ทำร้าย​ผู้หญิง​

นายแทนคุณ ระบุว่าเนื่องจากตนเองได้พบพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของ นายพิธา ลิ้มเจิรญรัตน์ หัวหน้าพรรค และ สส. พรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลย สนับสนุนการแสวงหาประโยชน์จากการจัดให้มีการนำเด็กอายุ 10 ปี ขึ้นเวทีกการเมืองที่พรรคก้าวไกลจัดขอบคุณประชาชน และฟังเสียงทุกคนก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และมีประชาชนจำนวนมาก เข้ารับฟังในวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ด

ช่วงหนึ่งของการปราศรัยมีการนำเด็กอายุ 10 ปี 2 คน ขึ้นเวทีและกล่าวคำพูดในลักษณะที่ทำให้เกิดการยุยง ให้เกิดความเกลียดชัง เช่น อยากให้นายพิธา เป็นนายกฯ หากนายกฯ ไม่ได้ชื่อพิธา เราก็จัดการกับระบอบปรสิต อันเป็นแนวคิดเดียวกันกับพรรคก้าวไกล และขบวนการปลุกปั่นทางสังคมที่ได้สื่อสารออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนให้เด็กนำเสนอแนวคิดทางการเมืองดังกล่าว ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก และเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองจากเด็กเนื่องจากเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ตามที่ปรากฏตามสื่อมวลชน ซึ่งขัดกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2546 และขัดต่อหลักการอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อ 19 และ 36 ที่จัดขึ้นในปี 2532 ที่ประเทศไทยได้ลงนาม ภาคยานุวัฒน์ รับรอง ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2535

นายแทนคุณ ยังระบุอีกว่า ในวันนี้ตนเองยังได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรม ที่มีการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของนายสิริน สงวนสิน สส. เขตทวีวัฒนา พรรคก้าวไกล ที่ได้ ปรากฏตามข่าวหน้าสื่อมวลชน โดยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ได้มีการทำร้ายร่างกายแฟนสาว ทั้งต่อยที่ใบหน้าและศีรษะ จนสตรีผู้นั้นได้รับการบาดเจ็บ รวมทั้งมีการแย่งมือถือไปโยนทิ้งข้างถนนทำให้เสียทรัพย์ และอับอายได้รับความทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ และเมื่อมีการแจ้งความที่ สภ.บ่อวิน แต่เรื่องก็จะเงียบหายไปเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ได้รับความสนใจ หรือได้รับการดำเนินการใดๆ จากหัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือจงใจละเว้นไม่ลงโทษหรือดำเนินการใดๆ ต่อการกระทำดังกล่าว โดยการกระทำของ สส.ของพรรคก้าวไกล ทั้งสองกรณีถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และขัดกับมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ภาพลักษณ์ของสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติเสื่อมเสีย มิสมควรปล่อยประละเลยผู้กระทำความผิดทั้งสองกรณีให้ลอยนวล อันจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป

จึงใคร่ขอกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรโปรดวินิจฉัย สั่งการสอบสวน และตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏ อันเกิดจากการกระทำดังกล่าวของ สส.พรรคก้าวไกล ทั้งสองกรณี ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม หรือประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2564 และขัดต่อกฎหมายระเบียบข้อบังคับอื่นใดหรือไม่ เพื่อจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมื่อถามว่า กรณีที่นายพิธาถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในการตรวจสอบของกรรมการจริยธรรมสามารถทำได้หรือไม่ นายแทนคุณ ระบุว่าคิดว่าทำได้ เพราะตอนเกิดเหตุนายพิธายังเป็น สส.อยู่ในขณะนั้น ทุกอย่างที่ทำไว้ก่อนที่จะมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีผลผูกพันเกี่ยวข้อง และความเป็น สส.ไม่ได้มีกรอบเวลาเลิกงานเหมือนกับอาชีพอื่นๆ เรื่องแบบนี้จึงไม่ควรเกิดขึ้น

Related Posts

Send this to a friend