‘ภูมิธรรม’ ขอทุกภาคส่วน อดทนอดกลั้นปมพิพาทชายแดน ไทย-กัมพูชา
วอน อย่ามองยั่วยุ หวั่น ลามสู่สงคราม รับแต่ละฝ่ายอารมณ์เดือด ต่างอ้างสิทธิ์พื้นที่ ย้ำจุดยืนสันติวิธี เดินหน้าเจรจา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีทหารกัมพูชาสร้างเพิงที่พักในพื้นที่ห้ามใช้ประโยชน์ ตาม MOU43 บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ว่าอย่ามองเป็นเรื่องน่ากังวลใจเกินไป ปัญหาชายแดนเป็นเรื่องที่คุยกันไม่จบ เพราะเราใช้แผนที่คนละฉบับ ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ขีดเส้นพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งมีพื้นที่ที่ทับกัน ยังไม่มีความชัดเจน อยู่ระหว่างการเจรจา พื้นที่ล้ำกันไปมาให้เจรจาด้วยสันติวิธี ซึ่งความอดทนอดกลั้นของแต่ละประเทศมีไม่เท่ากัน เพราะต่างฝ่ายต่างมองว่าเป็นพื้นที่ของตัวเอง จึงจำเป็นต้องใช้การเจรจาอย่างสันติวิธี
ส่วนพื้นที่ไหนมีปัญหาแล้วคุยกันยังไม่ได้ก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน หากรุกล้ำเข้ามาก็ต้องพูดคุยกัน ใช้ความอดทนอดกลั้นแก้ปัญหา ไม่อยากให้ไปขยาย เรื่องนี้มีทางออกสองแนวทาง คือ เจรจาโดยสันติวิธี และต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใครและเคลื่อนกำลังออกมาเพื่อเข้ายึดพื้นที่ ก็จะนำไปสู่สงครามและการใช้ความรุนแรง เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ยังมองว่าต้องเจรจากันต่อ ผ่านคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น มองว่ายังไม่ซีเรียสอะไร ระดับผู้นำของรัฐบาลยังพูดคุยกันได้
ทั้งนี้ อย่าไปมองว่าเป็นการยั่วยุ เราปกป้องอธิปไตยของเรา แต่ไม่อยากให้ไปถึงการสู้รบ ความสูญเสียจะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาเมื่อรุกล้ำเราก็จะทำหนังสือประท้วง และเจรจาผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับกันได้ แต่ถ้ายอมรับไม่ได้ก็ให้หยุดประเด็นพิพาทกันไว้ก่อน จะไม่หยิบยกคุยกัน อยากให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ อย่ามองไปไกลถึงขนาดว่าเป็นการยั่วยุ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของอารมณ์คน เพราะมีความคิดที่แตกต่างกัน อารมณ์ก็จะรุนแรง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองเรียกร้องกับทุกภาคส่วน เรื่องปัญหาข้อพิพาทว่าให้ใช้ความอดทนอดกลั้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใดก็ตาม เช่น ทะเลจีนใต้ การสู้รบยูเครน-รัสเซีย การสู้รบอิสราเอล-ฮามาส ให้ใช้การเจรจาอย่างสันติวิธี ไม่อยากให้เกิดสงคราม เรามีจุดยืนชัดเจนในเรื่องนี้ ไม่อยากให้ไปไกล
