POLITICS

‘อนุสรณ์’ แซะฝ่ายค้าน อภิปรายจืด​ โรยเกลือไม่น่าจะพอ​ เย้ย​ถ้า ​5 วัน 5 คืน จะจืดกว่านี้​

‘อนุสรณ์’ แซะฝ่ายค้าน อภิปรายจืด​ โรยเกลือไม่น่าจะพอ​ เย้ย​ถ้า ​5 วัน 5 คืน จะจืดกว่านี้​ ยัน ทีมพิทักษ์ฯไม่ต้องปรับแผน​ มั่นใจ นายกฯ-รมต.​ ตอบได้ทุกคำถาม​ ขอความเป็นธรรม ‘ภูมิธรรม’ หลังดูพฤติกรรม​คนอภิปราย ‘กีกี้’ ส่อ​ไม่เหมาะสม

วันนี้ (25 มี.ค. 68) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร โดยเปรียบเปรยว่าการอภิปรายของฝ่ายค้าน ‘จืดชืด’ จนต้องขอน้ำปลาเพิ่ม เพราะยุทธการ ‘โรยเกลือ’ ดูจะยังไม่พอ พร้อมระบุว่า หากมีเวลาอภิปราย 5 วัน 5 คืน ก็อาจจะจืดกว่านี้อีก

นายอนุสรณ์ ระบุว่า ขอฝากไปยังสื่อทุกสำนักว่าหากจะโปรยข่าววันนี้ต้องบอกว่า “อนุสรณ์ร้องสภา ขอน้ำปลาให้ฝ่ายค้านด่วน” เพราะติดตามจาก การนำเสนอข่าว จากยุทธการโรยเกลือดูแล้วไม่น่าจะพอ เกลือมาวันนี้ไม่น่าจะทันจึงต้องร้องขอน้ำปลาด่วน ซึ่งไม่ได้ประเมินด้วยตนเอง แต่ติดตามจาก ฟีดแบค การประเมินจากสื่อมวลชนหลายสำนักพร้อมเปรียบเทียบกับการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่อภิปรายเรื่องสปก 4-01 ช่วงเป็นฝ่ายค้านมีความหนักแน่นเป็นเรื่องเป็นราว ดูมีใบเสร็จ แต่เมื่อวานนี้ต้องใช้คำว่าเสียเวลาสภา ก่อนหน้านี้หลายคนอาจสงสัยว่าจะเอาอะไรมาอภิปราย 5 วัน 5 คืนแต่วันนี้เห็นชัดเจนแล้วว่าถ้าให้ 5 วัน 5 คืน จะจืดยิ่งกว่านี้ ซึ่งฝ่ายค้านแต่ละคนขอเวลา 65 นาที 80 นาทีน้อยที่สุด 35 นาที​พร้อมยกตัวอย่าง ถ้าไปดูคลิป วิธีการในการเลี้ยงกบหรือการปลูกฝรั่งกิมจูจะมีเวอร์ชั่น 30 นาที 15 นาที แต่ถ้าเป็นตนเองจะเลือกกด 1 นาทีพอ​ ซึ่งการอธิบายถ้าเก่งเอาข้อมูลมาเนื้อ ๆ เน้น ๆ ไม่ต้องไปขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ต้องมีวาทกรรมเยอะ

นายอนุสรณ์​กล่าวว่า ​ทีมพิทักษ์ ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องปรับแผน เราจะเห็นได้ว่าทีมพิทักษ์ใช้เวลาน้อยกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการประท้วง และในช่วงที่นายภราดร​ ปริศนานันทกุล​ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ลุกขึ้น เพื่อให้ผู้ประท้วงนั่งลงนั้น มีการนำเสนอว่า เกิดความโกลาหลวุ่นวายแต่ข้อเท็จจริงนายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ไปยืนจ้องหน้าอยู่หน้าบัลลังก์ ซึ่งคำวินิจฉัยของประธานถือเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย จะลุกขึ้นเมื่อมีการผิดข้อบังคับ และหาว่าผิดข้อไหน เช่นข้อ 9 ประธานวางตัวเป็นกลางหรือไม่ ประธานต้องควบคุมการทำหน้าที่ ห้ามอภิปรายในลักษณะเสียดสี ให้ร้าย ส่วนข้อ 71 วรรค 2 ไปพาดพิงคนอื่นให้เสียหายหรือไม่ ดังนั้นการอภิปราย 1 วัน ชี้วัดว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องปรับแผนอะไร ทุกคนทำตามที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือ เราคงไม่ไปประท้วง​ พร้อมยกตัวอย่างการอภิปรายของบางคนเนื้อหาหนักแน่น แต่ไม่ได้เสียดสีใส่ร้ายชัดเจนเราก็ปล่อยให้อภิปราย เพราะมั่นใจว่านายกรัฐมนตรี รวมถึงนายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงรัฐมนตรีทุกคนสามารถตอบได้ทุกคำถาม และข้อบังคับการประชุมสภาไม่ได้เปิดโอกาสให้ สส.​พรรครัฐบาลชี้แจงแทน เพียงแต่จะดูว่าผิดข้อบังคับข้อใดบ้าง จะลุกขึ้นประท้วงในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

นายอนุสรณ์ยังย้ำว่าการอภิปรายเมื่อวานนี้จืดต้องขอน้ำปลา ใส่พริกและที่กล่าวหาว่านายกฯ เลี่ยงภาษีหรือหนีภาษี เป็นการใช้คำรุนแรง ว่าไปทำธุรกิจที่ไม่เหมาะสมกับทุนเทาข้ามชาติ เป็นการใส่ร้ายโดยใส่จินตนาการ อภิปราย วนเวียนซ้ำซาก จนสมาชิกต้องทักท้วง แต่พอหนักขึ้น เช่นมีการใช้คำว่า ‘กีกี้’ เป็นความพยายามฉวยจังหวะฉวยโอกาส ใส่ร้าย หรือด้อยค่าผู้อื่น และความพยายามที่จะอธิบายว่าเป็นเสียงของลูกสมุนของปีศาจ จึงต้องถามว่า ใครคือลูกสมุน และยังบอกว่าการทำหน้าที่ของพรรค ร่วมรัฐบาลที่พิทักษ์ข้อบังคับการประชุม เป็นการประท้วงตามงวดงานหรือสัญญาจ้างถือเป็นการเสียดสีใส่ร้ายหรือไม่ ด้อยค่าหรือไม่ วิญญู​ชนพึงตัดสินได้

ส่วนกรณีนายภูมิธรรม​พาดพิงคำว่า ​‘กีกี้​’ นั้น นายอนุสรณ์ระบุว่าต้องให้ความเป็นธรรมเพราะ มีโอกาสที่จะพบคำไม่เหมาะสมเพราะผู้อภิปรายมีคาแรคเตอร์และพฤติกรรมที่ทำให้สงสัยได้​ เช่นคำว่าไม่รู้อะไร ทำให้เห็น ว่า​ มีทัศนคติวิธีคิดแบบนี้​ จึงทำให้สงสัยได้และต้องให้ความเป็นธรรมกับนายภูมิธรรมและเมื่อพิมพ์ค้นหาคำว่า ‘กีกี้’ จะมีผลลัพธ์ออกมาเจอถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมจริงๆ

นายอนุสรณ์​ ยังกล่าวอีกว่า​การอภิปรายเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีใครช่วย​ แต่ยอมรับบางเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินกับข้าราชการระบบราชการทำงานเป็นทีม​ มีกระบวนการมีส่วนร่วมนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ การมอบหมายสั่งงานสั่งการประเมินผลไม่ได้หมายความว่านายกรัฐมนตรีต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เรื่องทุกเรื่องที่รัฐมนตรีทำนายกรับทราบและทำตามนโยบาย และวันนี้ขอยืนยันเช่นเดิมว่าการประท้วงต้องระมัดระวัง รัดกุม ตามแนวทางเดิมไม่ให้ผิดข้อบังคับ​ ส่วนนายกรัฐมนตรียังเหลือเวลาในการชี้แจงแต่จะไม่ใช้เวลามาก

อย่างไรก็ตามนายอนุสรณ์ย้ำว่า เป็นความเห็นส่วนตัวและรับฟังจากหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรค และผู้มีประสบการณ์​ พร้อมยืนยันว่าเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลมาครบมาเต็มแน่นอนส่วนจะมีเพิ่มหรือไม่ต้องรอติดตาม

Related Posts

Send this to a friend