‘มหาดไทย’ ลุย ‘ปาย’ หลังมีข่าวชาวอิสราเอลยึดครองพื้นที่ ยืนยันไม่เป็นความจริง

‘มหาดไทย’ ลุย ‘ปาย’ หลังมีข่าวชาวอิสราเอลยึดครองพื้นที่ ยืนยันไม่เป็นความจริง ด้าน อุปนายกสมาคมท่องเที่ยว ชี้ เป็นเฟคนิวส์ กระทบความเชื่อมั่น เผย นักท่องเที่ยวอังกฤษยังครองอันดับ 1 ด้านนักท่องเที่ยวอิสราเอลโต้ ข่าวลือเป็นเรื่องโกหกไร้สาระ
วันนี้ (25 ก.พ. 68) กระทรวงมหาดไทย นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ หลังมีกระแสข่าวกรณีชาวอิสราเอลที่เข้ามาพำนัก และท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปาย ได้ก่อเหตุวุ่นวาย และการโจรกรรมสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน และผู้ประกอบการในพื้นที่ จนมีการติดป้าย “No Israel here” หรือ “ไม่ต้อนรับชาวอิสราเอล”
สำหรับการการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอำเภอปาย ประกอบด้วย จุดล่องแพ ในแม่น้ำปาย ซึ่งเป็นกิจกรรมล่องห่วงยาง ตามแม่น้ำปาย และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2565 โดยวันนี้ยังคงมีชาวต่างชาติ รวมกลุ่มกัน หลายร้อยคน สวมชุดว่ายน้ำ ชุดบิกินี่ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเพลง EDM ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จุดต่อมาคือ Chabad House (โบสถ์ยิว), จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล, ปายแคยอน และชุมชนท่องเที่ยวหมู่บ้านแพมบก (Pambok Eco-village)
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรนกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า เป็นคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว และประชาชนคนไทย จากกรณีที่มีการเผยแพร่ตามหน้าสื่อเกี่ยวกับชาวอิสราเอล ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (26 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จะร่วมลงพื้นที่ประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหากับสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังอำเภอปายนั้น น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาเป็นชาวอังกฤษ และ ชาวยุโรป โดยตัวเลขของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลนั้น มีการประชุมกับผู้ประกอบการเมื่อช่วงเช้า ทราบว่า จากปกติ ที่มีนักท่องเที่ยว กว่า 500-600 คนแต่ปัจจุบันเหลือเพียง 200-300 คนเท่านั้น ก็แสดงให้เห็นว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นนั้นทำให้นักท่องเที่ยวลดลง
ด้านนายชัยวิชช์ สัมมาชีววัฒน์ อุปนายกสมาคมท่องเที่ยวปาย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวออกไป ซึ่งข่าวดังกล่าวนั้นเป็นข่าวปลอม ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความสงสัย และมีความไม่มั่นใจที่จะเข้ามาเที่ยวในอำเภอปาย เราจึงพยายามประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่า มันไม่มีอะไร และข่าวปลอมที่เกิดขึ้นเกิดจากคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจและพยายามสร้างกระแสขึ้นมา เราจึงต้องพยายามประชาสัมพันธ์ให้คนทั้งโลกรู้ว่า อำเภอปายยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กังวลเรื่องอะไร นายชัยวิชช์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวมีความกังวลในหลายเรื่อง เมื่อมีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวก็จะวิตกกังวลไปเองเป็นธรรมชาติของข่าว โดยเฉพาะข่าวที่ออกไปว่า คนไทยไม่ต้อนรับชาวอิสราเอล ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก จึงพยายามทำให้เขาสบายใจว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ส่วนนักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้ามาในอำเภอปาย ได้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือไม่ นายชัยวิชช์ กล่าวว่า ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวในอำเภอปายเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่มีการท่องเที่ยว อำเภอปายก็จะเป็นเพียงพื้นที่เกษตรกรรม นักท่องเที่ยวก็ทำให้รายได้ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในปีที่แล้ว ที่มีรายได้กว่า 7,000 กว่าล้าน โดยที่มีอำเภอปายเป็นแม่งานหลักในการดึงดูดนักท่องเที่ยวรวมถึงบ้านรักไทย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างดี
นายชัยวิชช์ กล่าวต่อว่า นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในอำเภอปาย ทุกชาติ ทุกภาษามีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะชาวอิสราเอล เราไม่อยากให้คิดโจมตีชาวอิสราเอล ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการ ก็ถูกตั้งคำถามว่า ชาวอิสราเอลจะเข้ามายึดพื้นที่ในอำเภอปายจริงหรือไม่ ซึ่งตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงแค่การปล่อยข่าวของคนกลุ่มหนึ่งเพียงเท่านั้น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีการปักป้ายห้ามคนไทยเข้าพื้นที่ นายชัยวิชช์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ในพื้นที่โบสถ์ก็ไม่มีการปักป้ายดังกล่าว เพราะเราอยู่ในพื้นที่มานาน ยืนยันว่าไม่มีป้ายดังกล่าว ซึ่งกลุ่มที่ปล่อยข่าวมานั้นเป็นการรวมกลุ่ม และไปกระตุ้นในเพจเฟสบุ๊กต่างๆ ให้เกิดกระแสความเกลียดชัง แล้วเราก็พยายามทำความเข้าใจกับกลุ่มนี้อยู่ และอาจจะต้องมีการพูดคุยกันให้มากกว่านี้
ทั้งนี้ นายชัยวิชช์ ได้เชิญชวนนัดท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษาในโลกมาท่องเที่ยว เพราะอำเภอปายเป็นอำเภอที่น่ารักและสงบ บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดีและไม่เป็นไปตามข่าวที่เกิดขึ้น
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายโนอาม มูอัลมี นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ได้ยินข่าวเรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับคนอิสราเอลในอำเภอปาย เป็นเพียงแค่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวอิสราเอลส่วนใหญ่ต้องการมาพักผ่อนและท่องเที่ยวในอำเภอปาย รวมถึงได้เรียนรู้วัฒนธรรมเท่านั้น ซึ่งเหตุผลที่เลือกอำเภอปายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะมองว่ามอำเภอปายเป็นเหมือนสถานที่ธรรมดาๆ ที่มีบรรยากาศสบายๆ มีธรรมชาติที่สวยงาม และผู้คนก็น่ารักทุกๆ อย่างที่นี่น่าอัศจรรย์มาก
นายโนอาม ยืนยันว่า อำเภอปาย จะไม่ถูกยึดครองโดยคนอิสราเอล เพราะข่าวที่ออกมาค่อนข้างไร้สาระ ถ้าใครปล่อยข่าวรือนี้ขึ้นมาขอยืนยันว่าเป็นเรื่องโกหก เพราะว่ามันเป็น Fake News นักท่องเที่ยวอิสราเอลแค่อยากมาผ่อนคลายใช้ชีวิต ให้จิตใจสงบสุขแค่นั้น