’โรม’ หนุนตั้ง ‘คดีฮั้วเลือก สว.’ เป็นคดีพิเศษ
’โรม’ หนุนตั้ง ‘คดีฮั้วเลือก สว.’ เป็นคดีพิเศษ มอง ต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ พรรคร่วมรัฐบาลก็สั่นคลอนอยู่แล้ว
วันนี้ (25 ก.พ. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 2/2567 ช่วงบ่ายวันนี้วาระสำคัญคือ การคัดเลือก สว.ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งมีพฤติการณ์อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และประมวลกฎหมายอาญา เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) หรือการเป็นคดีความผิดทางอาญาอื่น
นายรังสิมันต์ ตั้งคำถามว่าทำไมเพิ่งมาทำตอนนี้ เรื่องคดีเลือก สว.เห็นมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เรื่องปกติ การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จะขยับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องตั้งคำถามต่อไปว่า เหตุใดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรง ถึงปล่อยให้เกิดขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะขยับเรื่องนี้ ดังนั้นสิ่งที่ DSI จะพิจารณา นอกจากคดีฮั้วเลือก สว.ต้องดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเข้าใจว่าที่ DSI มีข้อมูลบางส่วนแล้ว
ตนเองสนับสนุนให้ DSI ตั้งคดีนี้ แต่เมื่อตั้งคดีแล้วอย่าให้กลายเป็นการฟอกขาวหรือจบลงด้วยการไม่มีใครรับผิดคาดหวังว่า DSI จะเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองหนึ่งก็มีความเป็นไปได้ แต่ไม่สำคัญว่าเชื่อมกับใคร แต่สำคัญว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดอย่างไร เพราะอนาคตเราไม่รู้ว่า ระบบเลือก สว.จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากไม่เปลี่ยนก็ต้องอยู่กับระบบนี้ต่อไป หากไม่มีใครถูกดำเนินคดีกระบวนการที่มีนักคณิตศาสตร์ และการฮั้วเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลือก สว.ก็จะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าทุกคนพยายามแข่งขันการเลือก สว. เพราะทุกคนรู้ว่าหากคุม สว.ได้ก็สามารถคุมองค์กรอิสระได้ พรรคการเมืองหรือรัฐบาลก็มีโอกาสลอยนวลพ้นผิดจากคดีความ
ส่วนที่การเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์รัฐบาลนั้น นายรังสิมันต์ มองว่าต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ เขาก็สั่นคลอนกันอยู่แล้ว มีปัญหากันในทุกเรื่อง ต้องยอมรับว่ารัฐบาลบริหารงาน แต่หลายนโยบายไม่ได้มีการขับเคลื่อนมาก จนงงว่าร่วมรัฐบาลกันได้อย่างไร ราวกลับอยู่กันคนละขั้ว หลายอย่างไม่มีการขยับหรือผลักดันต่อ ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่ดูเหมือนเรื่องที่เห็นด้วยจะกลายเป็นเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งไม่ได้มีการหาเสียงอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อเทียบกับวาระทางการเมืองที่สำคัญอย่างการแก้รัฐธรรมนูญ
