POLITICS

‘ยศชนัน’ พร้อม กก.บห. เพื่อไทย รับฟังแนวนโยบายกับสภาอุตฯ ก่อนส่ง กกต. วันนี้

บอกไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นฮีโร่ ชี้ เป็น One Thailand หนุนธุรกิจเติบโต โต้ แคนดิเดตนายกฯ ตระกูลชินฯ ทำถูกวิจารณ์ต้นตอปัญหาชายแดน แจง เขาไม่พอใจเหตุปราบสแกมเมอร์ ขอพรรคการเมืองอย่าล้อเล่น ดึงกระแสชาตินิยมมาโจมตี

วันนี้ (24 ธ.ค. 68) นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงการรับฟัง การสะท้อนปัญหาของภาคอุตสาหกรรม ว่า พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้อยู่แล้ว และวันนี้ก็ได้รับข้อเสนอที่ชัดเจน ทำให้เรามั่นใจในนโยบาย และเมื่อสักครู่มีการพูดคุย ถึงปัญหารากหญ้า คือการทำให้ทุกคนฟื้นขึ้นมา เรื่องหนี้สิน การบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งต้องคิดอย่างเป็นระบบ และมีการพูดคุยถึงความได้เปรียบของประเทศไทย ซึ่งจะต้องดูตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ เพื่อเพิ่มมูลค่าทุกรูปแบบ สิ่งที่สำคัญ และความยั่งยืนก็คือองค์ความรู้ และทักษะต่าง ๆ ของคน การทำให้คนไทยรองรับอุตสาหกรรม เศรษฐกิจมูลค่าสูงได้ ต้องทำให้ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนสามารถลืมตาอ้าปากได้ เราพูดคุยกันถึงการสื่อสารไปข้างหน้า ในแนวนโยบาย ความสามัคคี ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ต่างประเทศมองประเทศ ในสายตาของคนที่จะเป็นความหวังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเพิ่มการเชื่อมต่อและระบบขนส่ง เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้คนมาลงทุน และการที่คนจะมาลงทุนรัฐบาลต้องรู้ว่าสิ่งที่จะมาลงทุนต้องดีกับประเทศไทย และสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ การสร้างนวัตกรรมก็ถือเป็นส่วนสำคัญ ต้องเกิดจากพื้นฐานของประเทศที่ดี ที่ต้องมุ่งเน้นเรื่องการเสริมศักยภาพของกลุ่มสตาร์ทอัพ แต่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ SMEs สามารถปรับตัว และนวัตกรรมคือทางเลือกของเขา

นายยศชนัน ระบุว่า สิ่งที่สภาอุตสาหกรรมส่งคีย์ของประเทศไทยมาให้ ก็ตรงกับที่พรรคเพื่อไทยได้ทำแนวนโยบายไว้อยู่แล้ว และจะนำข้อเสนอต่าง ๆ ทำให้ละเอียดยิ่งขึ้น และคงจะไม่รอให้ถึงการเลือกตั้ง เพราะหลายคนก็อยู่ในภาคส่วน ที่สามารถเลือกทำได้เลย และตนมองว่าคนไทยต้องสามัคคี มองไปข้างหน้า การมุ่งเน้นบางนโยบาย ควรจะมองนโยบายอื่น ๆ เป็นตัวตั้งด้วย วันนี้อาจมีบางประเด็นต้องผลักดันไป แต่สำคัญที่สุดคือทุกพรรคต้องมองเรื่องของประชาชนเป็นที่ตั้ง และมองอนาคตประเทศไทยไปข้างหน้า ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด รวมไปถึงการทำกิโยตินกฎหมาย ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมได้ทำไปบ้างแล้ว เราได้รับและจัดทำแนวทาง เพื่อที่จะลดรายจ่ายในทันที หน่วยงานภาครัฐต้องร่วมกันอย่างเป็นสัดส่วน และวันนี้เราจะส่งนโยบายให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต . ก่อนที่จะมีการส่งผู้สมัคร สส. โดยเราจะเริ่มทำในทันที ไม่มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจะเป็นฮีโร่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนเหล่านี้มีบางสิ่งบางอย่างอยู่แล้ว แต่รัฐบาลต้องผันตัวเองเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เอกชนมุ่งไปข้างหน้า และรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน สิ่งใดที่เราต้องเป็นหัวหอก เราก็มุ่งเราก็ทำ พยายามลงทุนในสิ่งที่เอกชนลงทุนแล้วจะขาดทุน และรัฐบาลควรจะอุดหนุนตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อให้เอกชนเจริญเติบโตมีความสามารถมีในการแข่งขัน ดึงคนเก่งๆเข้ามา และเราจะร่วมทำงานสนับสนุนกันไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เราคือ One Thailand

เมื่อถามว่ามาตรการภาษีสหรัฐฯ ผนวกกับปัญหาเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการหารือถึงแนวทางเรื่องนี้อย่างไร นายยศชนัน กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยว่าต้องดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล และต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเรามีประสบการณ์อยู่แล้ว จากทีมเศรษฐกิจ ก่อนที่จะหันไปหานายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในสมัยของ นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร

ส่วนการที่พรรคเพื่อไทย มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากเครือญาติของตระกูลชินวัตร จะทำให้เป็นปัญหาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชามากขึ้น หรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยว เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น คือเราปราบปรามสแกมเมอร์ ในทุกรูปแบบต่างหาก และสามารถทำให้ลดลงได้กว่า 40% ย่อมเกิดความไม่พอใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ชาวโลก ล้อมความขัดแย้งนี้เอาไว้ แล้วทำให้ประเทศไทยพิสูจน์ตัวเองว่า สิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง อยากทำให้เป็นลักษณะที่โลกล้อมกัมพูชา ใช้การทูตและการทหาร ไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมด้วย และวันนี้เรื่อง SMEs ก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่างน้อยการรักชาติ ก็ต้องรัก Made in Thailand ด้วย

เมื่อถามต่อว่า ด้วยกระแสชาตินิยมพรรคเพื่อไทยมักถูกหยิบยก เรื่องของปัญหาชายแดนมาโจมตีนั้น นายยศชนัน ระบุว่า เรื่องชาตินิยม ต้องไม่ใช่เรื่องพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เอามาล้อเล่น เพราะสำคัญและอ่อนไหวกับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ทำเรื่อง SMEs

Related Posts

Send this to a friend