’โรม’ จี้ นายกฯ มีสปิริตทางการเมืองลาออกถ้าสนับสนุนระบบอุปถัมภ์ ทำผิดกฎหมาย
’โรม’ แนะนายกฯ ยอมรับเลย 2 ทาง คือ พูดเรื่องตั๋วตามข้อเท็จจริง หรือยอมรับว่าพูดโกหก เพื่อโชว์ สส.เพื่อไทย จี้ มีสปิริตทางการเมืองลาออกถ้าสนับสนุนระบบอุปถัมภ์ ทำผิดกฎหมาย บอกถ้าเป็นตัวเองคงรู้สึกผิด
วันนี้ (24 พ.ย. 66) นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีความรับผิดชอบต่อการกล่าวถึงตำแหน่งผู้กำกับของนายกรัฐมนตรี ขณะที่มีบางฝ่ายแนะให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบนั้น
นายรังสิมันต์ มองว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรี ชัดเจนว่าหมายถึงเรื่องตั๋ว และตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝากตั๋ว ขณะที่แหล่งที่มาจุดเริ่มต้นของการฝาก ก็อาจจะมาจาก สส.ในพรรคตัวเอง ประเด็นนี้แบ่งออกได้ 2 ทาง
ทางแรกคือคำพูดของนายกรัฐมนตรีเป็นคำที่น่าเชื่อถือ เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งตนมองไปในทางนี้ นายกฯ คงรู้ว่าใครสมหวังหรือไม่สมหวัง คือคงเห็นโผแล้วจึงสามารถพูดได้ ซึ่งหากเป็นทางนี้ กระบวนการทางกฎหมายจะเดินไปอย่างไร ทุกคนคงเห็นแล้วว่าผิดอย่างไร
ทางที่สองคือ นายกรัฐมนตรีประกาศเลยว่าตอนนั้นที่พูดไป ผมพูดโกหก เป็นการพูดที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นการอวดรู้ ต้องการพูดไปส่งเดช ถ้าประกาศในสังคมแบบนั้นเราก็อาจจะเอาผิดนายกรัฐมนตรีไม่ได้
“แต่ถ้านายกฯ บอกว่า ตนเป็นคนน่าเชื่อถือ ผมพูดอะไรมา ผมต้องรู้ข้อเท็จจริงก่อน ผมมีสติสัมปัญชัญญะในการพูด เราไม่ได้มีวิกลจริตเป็นนายกฯ ถ้าเป็นแบบนั้นนายกฯ ต้องรับผิดชอบ เพราะคำพูดของนายกฯ คือหลักฐานที่มัดตัวนายกรัฐมนตรีเอง”
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า การเป็นนักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบมากกว่า ทั้งทางการเมืองและทางกฎหมาย ในกรณีนี้ชัดเจนว่าผิดต่อคำหาเสียงที่บอกว่าจะยกเลิกระบบอุปถัมภ์และยังผิดกฎหมายด้วย นายกฯ จะมีสปิริตแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออกหรือไม่ เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจ และประชาชนจะใช้เรื่องนี้เป็นตัวชี้วัด
ส่วนในกระบวนการทางกฎหมายฝ่ายค้านยังคงมีเวลาขอดูหลังกรรมาธิการเรียกนายกรัฐมนตรีมาสอบถามในเรื่องนี้ก่อน และหลังจากนั้นจะมาตัดสินใจว่าจะเดินกันอย่างไร รวมถึงช่องทางตรวจสอบขององค์กรอิสระอื่นๆด้วย ต้องรอดูว่ากระบวนการตรวจสอบจะใช้กับนายกรัฐมนตรีคนนี้ได้หรือไม่
“ทุกวันนี้ยังใช้วิธีการเงียบอยู่เลย ผมยังไม่เห็นความรู้สึกผิดต่อเรื่องนี้ ผมคิดว่าถ้าพูดถึงผู้นำประเทศ แล้วรู้เห็นกับระบบอุปถัมภ์ที่ทำร้ายคนจำนวนมากขนาดนี้ คุณปล่อยผ่านไป และพูดอย่างน่าชื่นตาบาน ถ้าเป็นผมดูตัวเองพูดในวิดีโอแบบนี้ ผมคงรู้สึกผิด แต่ผมไม่รู้ว่านายกฯ ท่านนี้เป็นยังไง
เพราะในวันถัดมาหลังพูดในที่ประชุม สส.เพื่อไทย ก็เป็นการไปชี้แจงข้างๆคูๆ ไปพูดถึงเรื่องความ ไม่ใช่เรื่องคนบ้าง อย่างที่ผมบอก ข้อแก้ตัวอันเดียวที่นายกฯ พอพูดได้แล้วฟังขึ้น คือพูดไปเลยว่า ตอนนั้นผมเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ผมพูดโกหก ผมต้องการโชว์ เพื่อเอาใจ สส.ของพรรคเพื่อไทย ถ้าพูดแบบนี้อาจฟังขึ้นได้ว่าเป็นการพูดส่งเดช ไม่มีความน่าเชื่อถืออะไร สังคมจะได้รู้ว่าคนๆนี้ เป็นคนที่พูดอะไรแล้ว สังคมไม่ควรให้คุณค่าเท่าไร่ จะเอาอย่างนั้นไหมครับ สำหรับนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน” นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำ