POLITICS

นายกฯ เผย ข่าวดี สถานการณ์ชายแดนไทย​ -​ กัมพูชา​ ใกล้ได้ข้อสรุป

นายกรัฐมนตรี พบปะ อสม.กระบี่ ขออย่าทิ้งประชาชน เพราะคือหมอคนแรกของประชาชน เผยข่าวดี สถานการณ์ชายแดนไทย​ -​ กัมพูชา​ ใกล้ได้ข้อสรุป ย้ำ ต้องไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว​

วันนี้ (24 ต.ค. 68) เวลา 17:30 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าเดอะแพลทตินัม ฮอลล์ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พบปะกลุ่มสตรี​แม่บ้าน อบจ.กระบี่ และ อสม.จังหวัดกระบี่ โดยนายก​รัฐมนตรี​ ได้เริ่มกล่าว​ทักทาย​เป็นสำเนียงใต้​ ซึ่งในช่วงหนึ่ง​ กล่าว​ชื่นชม​ อสม. ว่า คือสิ่งที่ประเทศไทยมี แต่ประเทศอื่นไม่มี และไม่ว่าโรคอะไรมา ก็สามารถสู้รบได้ทั้งหมด เพราะคือความเข้มแข็งของการเป็น อสม.

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ถ้าไม่มีโควิดคงไม่ได้ 2,000 บาท ไม่รู้จะชมอย่างไร แต่พอมีโควิดพอเห็น อสม.ช่วยหมอ ไม่ว่าตนจะไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่ กระทรวงอื่น เมื่อเจอ อสม.เมื่อไหร่ ก็ยังรู้สึก ตื่นเต้น และอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับพวกท่าน ตอนอยู่กับพวกท่านมา 4 ปีเต็มๆ​ ก่อนอวดว่าตนไปสมัครเป็น อสม.ที่บุรีรัมย์ และได้ 2,000 บาทด้วย​

นายอนุทิน​ ระบุอีกว่า​ ประชาชนมีอะไรให้เสนอโครงการมายัง น.ส.​ศศิธร​ กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแลกรมการพัฒนาชุมชน​ แต่ต้องย้ำว่า ต้องใช้ทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่า​ ต้องคิดถึงว่าหากจะผลิตอะไรขึ้นมาต้องขายได้ และมีราคาไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ​ แล้วขายไม่ได้ นานๆ จะมีนายกรัฐมนตรีใจดีแบบนี้​ รัฐมนตรีเสนออะไรมาตนอนุมัติหมด​ เพราะมอบอำนาจให้รัฐมนตรีได้ดูแล เพื่อประชาชน ซึ่งคือสิ่งที่พวกตนได้เข้ามาทำงานจนบอกตนเองเสมอว่า พวกตนคือคนที่ประชาชนเลือกมาไม่มีใครแต่งตั้งมาเพราะคนแต่งตั้งคือประชาชน และตนต้องดำรงตำแหน่งสถานะผู้แทนราษฎร​ เป็นปาร์ตี้ลิสเบอร์ 1 เพราะฉะนั้นตนก็เป็น สส.ถึงแม้จะไม่ใช่ สส.กระบี่​ แต่ประชาชนกระบี่ เลือกตนมาเป็น สส.เหมือนกัน “ตอนแรกมากระบี่ก็งงๆ​ แต่ตอนนี้เลิกงงแล้ว​ ให้ สส.มา​ 3 คน​”

นายอนุทิน​ ยังฝาก อสม.​ว่า อย่าทิ้งประชาชน​ เพราะ อสม. คือหมอคนแรกของประชาชน เขาเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ไกล ตนหวังว่าโครงการผู้ช่วยพยาบาล 1 ตำบล 1 ผู้ช่วยพยาบาลน่าจะยังอยู่ ซึ่งเราจะเห็นว่าเวลาที่ประชาชนเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าสามารถเป็นตัวแทนของแพทย์ให้การดูแลปฐมพยาบาลขั้นแรกได้ก็จะทำให้คนมีกำลังใจและรู้สึกปลอดภัย คือสิ่งที่สำคัญที่สุด​ อะไรที่ให้แล้วเอาคืนไม่ได้มีคนดึงเรื่องฟอกไตไป ไม่เป็นไรขออภัยในความไม่สะดวกนิดหน่อย​ วันนี้ตนกลับมาแล้ว​ เอามาคืนแล้ว​ เพราะเราให้แล้วเราถอนไม่ได้ไปก็คือโรคโรคหนึ่งถ้าในเมื่อเราเชิดชูโครงการรักษาทุกโรค​ แล้วก็ต้องรักษาทุกโรค​

นายอนุทิน​ กล่าวย้ำว่า​ หากประเทศเข้มแข็ง​ อย่าว่าแต่ 3,000 บาท เลย 5,000 บาทก็ให้​ เลือกที่ตน มันอยู่ที่เรา​ เราก็ไปจัดการเรื่องยาเสพติด เพราะถือว่ามันเป็นเสนียดจัญไรของบ้าน เข้ามาไม่ได้ใครทำคนนั้นต้องถูกดำเนินคดีเด็ดขาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันอยู่กับมือเราทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าทำไม่ได้

นายอนุทิน​ ยังถาม อสม.และกลุ่มสตรี ว่า อย่าลืมเรื่องทะเบียนคนละครึ่งพลัส​ ลงแล้วหรือไม่​ ​ถ้ายังไม่ลง ในเดือนมกราคม หาวิธีเยียวยา​ คนที่ลงทะเบียนแล้วต้องทำความเข้าใจให้ดีโครงการคนละครึ่ง​ เป็นการจ่ายร่วมกัน ท่านต้องจ่ายรัฐก็ช่วยจ่าย​ ถ้าท่านไม่จ่ายท่านก็เสียสิทธิ เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยกันจับจ่ายใช้สอย

​ทั้งนี้ นายอนุทิน​ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบกับประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ก็น่าจะมีข้อสรุปที่ทำให้ประเทศไทย​ เราไม่เสียเกียรติภูมิ ไม่มีการเสียดินแดนเด็ดขาด แม้แต่ตารางนิ้วเดียว และจะต้องไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อของคนไทย เขาจะต้องถอนอาวุธหนักออกไป​ เขาจะต้องถอนกับระเบิดออกไป และต้องปราบปรามคอลเซ็นเตอร์​แก๊งหลอกลวง และเราก็จะรักษาแผ่นดินของไทยหาข้อตกลงที่จะจบให้ได้​ โดยที่เราไม่มีวันที่จะเสียเปรียบใดๆ ทั้งสิ้น​

ฉะนั้นถ้าจะมีข่าวดีๆ เพิ่มเข้ามาทีละนิด​ ประเทศไทยของเราก็จะกลับเข้ามาสู่ความสงบสุข​ เริ่มที่จะสร้างชีวิต และสามัคคีให้กับประเทศไทยอีกครั้ง

“สไตล์อย่างนี้​ กินกันฉันด้วย​ ตีกันฉันป่วยอยู่แล้ว ก็ขอให้ประชาชนช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมืองของเรา​ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลังด้วย” นายอนุทิน กล่าว

นอกจากนี้ ในตอนท้าย นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า “เมื่อสักครู่นางสาวซาบีดา​ ให้พรในภาษาอาหรับไปแล้ว​ อัสลามมูลัยกุ้ม​ฯ ตนก็เข้าวัดสัพพะมังคะลัง​ ขอความเป็นมงคลจนเกิดแก่ท่าน สัพพะเทวะตา​ ขอเทวดาจงรักษาท่าน สัพพพพุทธานุภาเวนะ​ สัพพะธัมมานุภาเวนะ​​ สัพพะสังฆานุภาเวนะ ขออานุภาพคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์​ สะทาโสตถี ภะวันตุ เตฯ ค่ำแล้วกลับได้​ รับพรจากหลวงพ่อหนู​ วัดราษฎร์​สิ้นศรัทธา​”

Related Posts

Send this to a friend