‘ศรีสุวรรณ’ บุก ป.ป.ช. ร้องสอบ กรมราชทัณฑ์ เข้าข่ายเลือกปฏิบัติ กรณี ‘ทักษิณ’
‘ศรีสุวรรณ’ บุก ป.ป.ช. ร้องสอบ กรมราชทัณฑ์ ทั้งระบบ เข้าข่ายเอื้อประโยชน์ เลือกปฏิบัติ กรณีนำตัว ‘ทักษิณ’ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่
วันนี้ (24 ส.ค. 66) เวลา 10:00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการนำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ว่าเข้าข่ายการเลือกปฏิบัติ และเอื้อประโยชน์แก่ตัวบุคคล ในความคิดตามมาตรา 157 หรือไม่
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า สืบเนื่องจากการที่นายทักษิณเดินทางกลับมาจากต่าวประเทศเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลในคดีทุจริต 3 คดี ที่มีอัตราโทษจำคุกรวม 8 ปี โดยการเดินทางกลับมาของนายทักษิณถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่าได้รับอภิสิทธิ์ ซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นก็ได้ปรากฏแล้ว หลังจากที่นายทักษิณลงจากเครื่องบินส่วนตัวที่สนามบินดอนเมือง เราก็พบความผิดปกติ ของนักโทษในคดีอาญาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย เพราะมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งๆ ที่นักโทษควรจะถูกควบคุมตัว และรีบนำตัวส่งไปยังศาล เพื่อให้ศาลอ่านคำพิพากษา และเซ็นรับในคำพิพากษาก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำ
แต่กรณีของนายทักษิณเมื่อลงจากเครื่องบินแล้ว กลับได้ถ่ายรูปกับครอบครัว และเดินออกมานอกอาคารเพื่อโบกมือทักทายแฟนคลับ และให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ใช่พฤติกรรมปกติ ที่ราชการไทย โดยเฉพาะตำรวจ ตม. จะทำต่อนักโทษทุกคน รวมทั้งการนำตัวนายทักษิณจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปส่งตัวที่ศาลฎีกาที่สนามหลวง เราก็เห็นว่ามีการนำรถตำรวจนำขบวนติดตามไปเป็นแถว ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นแล้วไม่รู้สึกกระดากใจกันบ้างเลยหรือ และการนำตัวนายทักษิณจากศาลไปส่งที่กรมราชทัณฑ์ ก็ทำเหมือนกับอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือนประเทศ
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อเข้าสู่เรือนจำโดยระเบียบจะต้องมีการตรวจสุขภาพทันที แต่เมื่อตรวจเสร็จกลับมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว บอกว่าเป็นกลุ่มเปราะบางมีโรคประจำตัวมากมาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ในระยะเวลาไม่กี่เดือน ลูกสาวของนายทักษิณก็เคยพาพ่อไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี รวมถึงก่อนหน้านี้ก็มีคลิปนายทักษิณออกกำลังกายที่แสดงให้เห็นว่าสุขภาพสมบูรณ์มาโดยตลอด แต่พอเข้าทัณฑสถานในประเทศไทย กลับกลายเป็นคนอมโรคอมป่วยทันที
“เรื่องเหล่านี้ผมคิดว่าคนไทยทั้ง 70 ล้านคนไม่ได้กินแกลบกินหญ้า เขารู้ว่าพวกคุณทำอะไรกันอยู่ ฉะนั้นเรื่องนี้ องค์กรรักชาติรักแผ่นดินปล่อยวางไม่ได้ เพราะยังมีคนที่ต้องคดี อยู่ในทัณฑสถานเป็นแสนคน ที่อาจไม่ได้รับอภิสิทธิ์เยี่ยงคุณทักษิณเช่นนี้” นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณ ระบุอีกว่า เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่นายทักษิณอยู่ในเรือนจำ ก็มีการส่งตัวนายทักษิณไปที่โรงพยาบาลตำรวจทันที โดยอ้างว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งตนมองว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุที่มีโรคความดันเลยหรือ ถ้าไม่มีศักยภาพ ผู้บริหารของโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ หรือเพิกถอนใบอนุญาตโรคศิลปะของโรงพยาบาลนี้ทิ้งไป ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราเห็นว่าพฤติการณ์ที่ผ่านมาโดยตลอดของราชการไทย โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์อาจจะเข้าข่ายเรื่องของการเอื้อประโยชน์ และเลือกปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เป็นเยี่ยงอย่างในการบริหารจัดการของระบบราชการไทย จึงต้องนำเรื่องนี้มาร้องต่อ ป.ป.ช. มาไต่สวน และวินิจฉัยว่าพฤติกรรมดังกล่าวควรหรือไม่
อีกทั้งผู้ต้องขังรายอื่นจะใช้สิทธิ์แบบนี้ได้หรือไม่ และอยากให้ญาติผู้ต้องขังรายอื่นช่วยกันร้อง และขอให้หน่วยงานอิสระต่างๆ ไปช่วยกันตรวจสอบการกระทำของราชทัณฑ์ โดยเฉพาะผู้บริหารของราชทัค เราจะปล่อยให้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังแบบนี้ไม่ได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักโทษไม่ใช่เทวดา
โดยวันนี้ จะมีการร้องผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์ตั้งแต่อธิบดี ไปจนถึงผู้บริหารทัณฑสถานพิเศษ ผู้บริหารโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และผู้บริหารของตำรวจตม. ที่เกี่ยวกับการคุมตัวของนายทักษิณจากสนามบินดอนเมืองไปส่งตัวที่ศาลฎีกา ว่าเข้าข่ายเกี่ยวกับเรื่องของการเอื้อประโยชน์ เลือกปฎิบัติหรือไม่ ที่ขัดต่อกฎระเบียบของราชทัณฑ์นำไปสู่การทุจริตต่อหน้าที่ และผิดตาม ม.157 หรือไม่