POLITICS

‘เดชอิศม์’ นำ 20 สส.ประชาธิปัตย์แถลงจุดยืน โหวต ‘เศรษฐา’ เพราะพรรคไม่มีมติชัดเจน

‘เดชอิศม์’ นำ 20 สส.ประชาธิปัตย์แถลงจุดยืน โหวต ‘เศรษฐา’ เพราะพรรคไม่มีมติชัดเจน ชี้ 3 เสาหลักยังโหวตคนละทาง ฟังอภิปรายแล้วไม่ติดใจคุณสมบัติจึงความเห็นชอบ เศรษฐา พร้อมประกาศเป็นฝ่ายค้านเต็มรูปแบบ ลั่น เป็น สส.ยุคใหม่ ไม่รับมรดกความขัดแย้งสีเสื้อ เป็นเพื่อนได้ทุกพรรค หากบินไปพบทักษิณ มีความผิด คงถูกประหารขีวิต

วันนี้ (24 ส.ค. 66) นายเดชอิศม์ ขาวทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา 2 สมัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ 16 สส. พรรคประชาธิปัตย์แหกมติพรรค ให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์เริ่มไม่มีเอกภาพตั้งแต่การประชุมวิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 2 รอบ ซึ่งมีเจตนาที่จะให้องค์ประชุมล่มทั้ง 2 ครั้งทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรค พี่น้อง สส.และค่าใช้จ่ายของพรรค 3-4 ล้าน ในการประชุมแต่ละครั้ง

โดยในการประชุมพรรคเพื่อพิจารณาวาระในวันที่ 22 – 24 ส.ค. หลักสำคัญคือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมแบ่งออกเป็น 3 แนวทางคือ เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ งดออกเสียง จึงได้มีการซักถามถึงสาเหตุ ส่วนใหญ่มีการอ้างถึงความขัดแย้งในอดีต สส.ใหม่จึงอยากให้แยกหน้าที่ สส.ปัจจุบันกับความขัดแย้งในอดีตออกจากกัน มิฉะนั้นก็จะเกิดอคติตลอดไป ทำให้ผู้ใหญ่บางคนเดินออกจากห้องประชุม

ขณะที่บางส่วน เสนอให้เห็นชอบ มองว่าขณะนี้ประเทศอยู่ในทางตัน ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ประเทศจะเกิดสุญญากาศนานไม่ได้

ขณะที่บางคนบอกว่าควรงดออกเสียง ให้เหมือนกับกรณีการให้ความเห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลุกขึ้นพูดว่าอย่าโหวตกันเลย เพราะจริงๆ เป็นเอกสิทธิ์ของ สส. ทำให้ในการประชุมพรรควันนั้นไม่มีการโหวตมติพรรค

กระทั่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่าน มา สส. ของพรรคประมาณ 20 คนที่ได้ฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ซึ่ง สส. เกือบ 100% ในสภา สามารถรับได้เพราะมองว่าปัญหาเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งถึงการลงมติ 3 คนแรกพบว่านายจุรินทร์ งดออกเสียง นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ลงมติไม่เห็นชอบ ทำให้ สส. มองว่า พรรคไม่มีมติ เพราะหากมีมติจะไม่สามารถแหกมติได้ สส. จึงยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

และที่ผ่านมาเรามองว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ กปปส. เคยขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเนวิน ชิดชอบ และกลุ่มเพื่อนเนวิน ก็เคยเป็นงูเห่า ออกมา สนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี พวกเขายังสมานฉันท์กันได้ เราเป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ไม่เคยสวมเสื้อเหลืองเสื้อแดง เราไม่ควรรับมรดกความขัดแย้งเก่าๆ สส. เห็นว่าเราควรสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งรวมเสียงข้างมากได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้เราจะเป็นฝ่ายค้าน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ สส.16 คนโหวตให้นายเศรษฐา

พร้อมกันนี้นายเดชอิศม์ ยังประกาศยืนยันว่า ขณะนี้เราเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว ในฐานะ สส. ประชาธิปัตย์และพรรคฝ่ายค้าน เราไม่กระเหี้ยนกระหือรือที่จะไปเป็นรัฐบาล และเราก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจเองได้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติของพรรค แต่อย่างไรก็ตามต้องมีหนังสือเทียบเชิญร่วมรัฐบาลจากพรรค แกนนำมาก่อน

ส่วนกรณีที่ตนเองบินไปพบนายทักษิณ ชินวัตรที่ฮ่องกง นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนเองเป็น สส.รุ่นใหม่พบปะพูดคุยได้ทุกพรรค เราแยกหน้าที่ออกจากความผูกพัน หน้าที่กับความแค้นความอคติในอดีต และส่วนตัวก็สนิทกับหัวหน้าพรรคเกือบทุกพรรค ถ้าการบินไปพบนายทักษิณ เป็นความผิด คงต้องถูกประหารชีวิตเพราะสนิทกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค

ส่วนที่หลายคนมองว่า สส.ทั้ง 16 คนต้องการให้พรรค มีมติขับออกจากพรรคเพื่อไปหาพรรคใหม่นั้น นายเดชอิศม์ บอกว่า ปกติการจะมีมติขับออกต้องเป็นการหารือร่วมกันระหว่าง สส. พรรคและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเสียง สส.ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งนี้หมดแล้ว ไม่รู้ใครจะขับใครออกกันแน่ แต่ส่วนตัวตอนนี้ฝ่ายเราไม่คิดจะขับใครออกจากพรรค อยากให้มีการพูดคุยเจรจา แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาเจรจากับเราเลย ขอยืนยันว่า ตนเองไม่อยากรับมรดกความเคียดแค้นจากอดีต อยากทำในสิ่งที่ดีๆ จริงๆ แล้วพวกเรายินดีที่จะออกจากตำแหน่ง สส. วันนี้ วันพรุ่งนี้ได้เลย หากรู้สึกว่าได้ทรยศประชาชน ไม่ว่าจะคนใต้หรือคนทั้งประเทศ เราไม่เคยคิดทรยศ เราซื่อสัตย์ เราไม่เคยทรยศ เรามาจากการเลือกตั้ง เราทำเพื่อพี่น้องประชาชนสิ่งที่แคร์ที่สุดคือชาติและประชาชน

ส่วนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพรรค ขณะนี้จุดเริ่มต้นน่าจะเริ่มจาก การประชุม วิสามัญพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ให้ได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการแข่งขัน เรายินดีให้ความร่วมมือ เมื่อปี 62 ตนเองไม่ได้เลือกนายจุรินทร์ แต่เมื่อมติพรรคออกมา พวกตนก็ยอมรับและทำตัวเป็นลูกพรรคที่ดีปกป้องมาตลอด ทั้งนี้มองว่าตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่แตก เพียงแต่ความเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้นขอให้ทุกคนลดทิฐิ หันมาพูดคุยกันและพากันผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

Related Posts

Send this to a friend