‘วิษณุ’ เผย ‘ประยุทธ์’ ‘ประวิตร’ ไม่มีใครกังวลคำสั่งศาล รธน.ชี้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ของราชการเดิมได้

‘วิษณุ’ เผย พูดคุยกับ ‘ประยุทธ์’ ‘ประวิตร’ แล้ว ไม่มีใครกังวล หลังศาล รธน.สั่งนายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่ ชี้ พลเอกประยุทธ์ใช้ของราชการเดิมได้ระหว่างรอศาลชี้ขาด ด้าน พลเอกประวิตร มีอำนาจยุบสภา ปรับ ครม.แต่ทางปฎิบัติทำได้ยาก เพราะต้องหารือหลายฝ่าย

วันนี้ (24 ส.ค. 65) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะต้องรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยอัตโนมัติและมีอำนาจเต็มในการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงทางทฤษฎีสามารถทำได้ทั้งการยุบสภา และปรับ ครม. แต่ในทางปฎิบัติทำได้ยาก เพราะต้องหารือกับหลายฝ่ายหลายคน ไม่ได้ทำเพียงคนเดียว ต้องถามคนอื่นด้วย รวมถึงพลเอกประวิตร จะเป็นผู้รับสนองกฎหมายลูกทั้งสองฉบับด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาทูลเกล้าฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตนเองก็เคยรับสนองฯกฎหมายมาหลายฉบับแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีหยุดปฎิบัติหน้าที่ รถประจำตำแหน่ง บ้านพัก รวมถึงห้องทำงานบนตึกไทยคู้ฟ้า พลเอกประยุทธ์ จะสามารถใช้ได้ตามปกติเหมือนเดิมหรือไม่ว่า การหยุดปฎิบัติหน้าที่ไม่ใช่การพ้นจากตำแหน่ง ดังนั้นยังใช้งานได้ ไม่ได้ยึดสิ่งใดกลับไป เพราะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่

นอกจากนี้ ตนเองได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์แล้ว โดยบอกว่าจะไม่เข้ามาทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แต่จะไปทำงานที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยังสามารถประชุมคณะรัฐมนตรีได้ ส่วนในวันอังคารที่ 30 สิงหาคมนั้น ไม่ทราบว่าพลเอกประยุทธ์จะเข้ามาร่วมประชุมหรือไม่ แต่ยังคงมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ทั้งนี้พลเอกประวิตร ก็แจ้งมาว่าจะไม่ขึ้นไปทำงานที่ห้องพลเอกประยุทธ์ บนตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งได้พูดคุยทั้งสองคนแล้ว และเดิม พลเอกประยุทธ์มีกำหนดการเดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อเป็นประธานในพิธีบรรจุอัฐิ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในวันที่ 26 สิงหาคมนั้น ได้มอบหมายให้ตนเองไปแทน โดยพลเอกประยุทธ์ไม่มีฝากอะไรเป็นพิเศษ แต่ฝากเงินไปทำบุญเท่านั้น ทั้งนี้จากการพูดคุยทั้งพลเอกประวิตร พลเอกประยุทธ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไม่มีท่าทีกังวลหรือตื่นเต้นตกใจใดๆ โดยทราบว่าเรื่องการชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนั้น ฝ่ายกฎหมายของพลเอกประยุทธ์ ได้เตรียมการไว้แล้ว

นอกจากนี้นายวิษณุยังได้กล่าวถึง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือ พ.ร.ป. เลือกตั้ง และ พ.ร.ป.พรรคการเมืองว่า เมื่อ กกต.ตอบมาว่าไม่ติดใจก็สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่ข้อบังคับให้ที่ประชุมสภาเก็บไว้ 3 วัน อย่าเพิ่งส่งมาให้รัฐบาล เผื่อมีคนมาร้องศาลรัฐธรรนูญ ซึ่งเริ่มนับวันนี้วันแรก หลังจากนั้นก็จะส่งมายัง ครม.และ ครม.เก็บไว้อีก 5 วัน หลังจากนั้นก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยพลเอกประวิตร ก็จะเป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ และเป็นผู้รับสนองฯ

ส่วนที่มีการมองว่าเป็นกระบวนการวางยาพลเอกประยุทธ์ในทางกฎหมาย และทำให้ติดหล่มทางการเมือง นายวิษณุ กล่าวว่าไม่คิดว่ามี ไม่น่าจะใช่การวางยา ยังไม่เห็นการวางยาอะไร โดยการรักษาการนายกฯของพลเอกประวิตร ไม่น่าจะยาวถึงการประชุมเอเปค แต่ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะใช้เวลากี่วัน ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปยังศาลรัฐธรรมนูญเร็วกว่า 15 วัน เพราะได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่ต้องมีการปรับแก้ ส่วนการรื้อโผผู้บัญชาการเหล่าทัพ พลเอกประวิตรไม่สามารถรื้อได้ เพราะการแต่งตั้งนายทหารต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสภากลาโหม ส่วนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ซึ่งมีตนเองอยู่ในคณะกรรมการนั้นด้วย ซึ่งทราบว่าจะมีการประชุมในวันที่ 29 สิงหาคมนี้

ทั้งนี้การที่ศาล รธน.สั่งให้นายกฯหยุดปฎิบัติหน้าที่จะเป็นสัญญาณลบ และเป็นทางลงให้พลเอกประยุทธ์ หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ทราบ ตนเองขอชี้แจงเฉพาะที่เป็นข้อเท็จจริง ตามกฎหมาย เท่านั้น ซึ่งคำสั่งศาล รธน.ที่ออกมาเช่นนี้ ถือว่าได้อยู่ในแนวทางที่ได้อธิบายกับ ครม.ไว้แล้ว จึงได้เตือน ครม.ว่าอย่าตื่นเต้นตกใจ หรือเกียร์ว่างกับการทำงาน