POLITICS

‘ศิริกัญญา’ ไม่ให้คะแนนรัฐบาลแถลงดิจิทัลวอลเล็ต เหตุไม่มีเรื่องใหม่ หลายเรื่องไม่ชัดเจน

‘ศิริกัญญา’ ไม่ให้คะแนนรัฐบาลแถลงดิจิทัลวอลเล็ต เหตุไม่มีเรื่องใหม่ หลายเรื่องไม่ชัดเจนจ่ายเงินซับซ้อน ไม่บอกวิธีลงทะเบียนออฟไลน์ แถมยังต้องลุ้นใช้เงินข้ามปีได้หรือไม่

วันนี้ (24 ก.ค. 67) ที่รัฐสภา นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำทีมแถลงดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชนว่า จากการติดตาม ไม่มีเรื่องใหม่ มีเพียงแค่เรื่องวันในการลงทะเบียน นอกจากนั้นแล้วยังไม่มีความชัดเจน แม้จะมีการทวงถามจากสื่อมวลชนแล้วก็ตาม

เรื่องแรกคือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ภายหลังเกิดพายุหมุนดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เศรษฐกิจจะโตแค่ไหน ซึ่งนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังบอกว่า ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก แต่จากที่ตนเองเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งกระทรวงการคลังได้ส่งผลที่จะเกิดขึ้นภายหลังดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามาแล้ว หลายหน่วยงานปรับเป้าหมาย GDP โตไม่ถึง 1% เพราะมีการปรับลดเป้าหมาย หรือแหล่งที่มาของเงินกู้ พอกลับไปใช้ในเงินงบประมาณ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ยังมีความไม่ชัดเจนของแหล่งที่มาของเงินนั้น ทั้งงบปี 67 และปี 68 ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ไม่ได้ให้ความชัดเจน ทั้งยังมีปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนงบเพิ่มเติมที่จะต้องใช้ภายในปีงบประมาณก็มีการถกกันว่า จะต้องใช้เป็นงบรายจ่ายประจำปีทั่วไป กันเงินเอาไว้เบิกเหลื่อมปี ถ้าปี 67 ใช้ไม่หมดได้หรือไม่ ซึ่งตัวแทนจากสำนักงานกฤษฎีกาก็ให้ความเห็นว่า สามารถกระทำได้ เนื่องจากได้เกิดนิติสัมพันธ์ ถือว่าผูกพันสัญญาแล้ว แต่เมื่อคณะกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคก้าวไกลแย้งไปว่า จะเรียกเป็นสัญญาได้อย่างไร ในเมื่อผูกพันลักษณะการตอบแทน ไม่ใช่สัญญาที่ต้องเซ็นยินยอมทั้งสองฝั่ง ซึ่งก็ไม่มีหน่วยงานใดสามารถตอบได้เลย ว่าเป็นสัญญาประเภทใด เหมือนคิดขึ้นมาใหม่ แบบไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศนี้มาก่อน

สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือ สรุปแล้วจะสามารถใช้เงินข้ามปีได้หรือไม่ หากไม่ได้ งบเพิ่มเติมที่จะต้องมีการอนุมัติกันในวาระ 2 และวาระ 3 ก็คงต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากใช้ไม่ทันก็จะมีสิทธิที่จะใช้ไม่ได้ข้ามปี และต้องใช้วิธีการอื่นในการทำ ซึ่งมี 2 ทาง คือแจกเป็นเงินสดภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยที่ระบบยังไม่เสร็จ หรือจะแจกพร้อมกันหมด ก็อาจจะต้องพับเงินก้อนนี้ไป เพราะใช้ไม่ได้แล้วต้องหาเงินก้อนอื่น ซึ่งปลัดกระทรวงฯ ก็ออกมาบอกว่าอาจจะกลับไปใช้มาตรา 28 ก็เป็นได้ เท่ากับว่าทุกอย่างยังคงลื่นไหลไม่นิ่งไม่แน่ไม่นอน

ส่วนที่ถกเถียงกันเรื่องรายจ่ายการลงทุนว่าจะเป็น 80% ได้อย่างไร ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังก็พยามที่จะอธิบายเต็มที่ว่า เป็นรายจ่ายลงทุนจริง ๆ แต่เท่าที่เราดูแล้วกลับมาจากสมมติฐาน ไม่ได้มาจากข้อเท็จจริง หรือผลสำรวจแต่อย่างใด หากจะตั้งเป้าหมายแบบนั้น ก็เป็นรายจ่ายลงทุนได้อย่างมาก 50% เท่านั้น อย่างไรก็ต้องดูเรื่องสัดส่วนอีกทีว่าจะเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

ขณะที่ระบบลงทะเบียนว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากมีการจัดซื้อจัดจ้างไปแล้วตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ปัญหาคือระบบจ่ายเงินที่มีความซับซ้อนมาก เพราะต้องสร้างกระเป๋าเงินอีกหนึ่งอัน เพื่ออยู่ในแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ แล้วจึงให้เรามาใช้ ซึ่งเราก็ได้ขอดู TOR ไปแล้วว่ามีการกำหนดไว้อย่างไรบ้าง แต่ปรากฏว่า TOR ไม่สามารถให้ได้ เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างแบบคัดเลือก ส่วนหนังสือเชิญชวนก็ยังร่างไม่เสร็จ จึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรให้เสร็จทัน เพราะยังต้องส่งต่อให้กับหน่วยงานอื่นอีก แล้วเงินที่จ่ายไปจะปรากฏอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลจริงใช่หรือไม่ ไม่มีการตกหล่นหายระหว่างทางใช่หรือไม่

นางสาวศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตว่า ระยะเวลากว่าเดือนครึ่งในการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน อาจจะเป็นเพราะอยากให้คนมีการลงทะเบียนแบบออฟไลน์น้อยที่สุด แต่ก็ยังไม่มีการบอกรายละเอียดการลงทะเบียนแบบที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งคงไม่มีผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการใช้สมาร์ทโฟน โดยปฏิเสธที่จะให้คะแนนในการแถลงข่าวครั้งนี้ เพราะรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีการแบ่งแถลง 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นการแถลงโดยรัฐมนตรี ซึ่งจะให้นายกรัฐมนตรีมาแถลงภายหลัง เท่ากับว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แต่มีอะไรที่พูดได้ก็พูดไปก่อน เมื่อไม่คาดหวังจึงไม่ผิดหวัง

Related Posts

Send this to a friend