’ณฐพร‘ ยื่นหนังสือนายกสภาทนายความฯ ให้พิจารณารับหลักฐานคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ
’ณฐพร‘ ยื่นหนังสือถึง นายกสภาทนายความฯ ให้พิจารณารับหลักฐานคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ อ้าง มีหลักฐานการโอนเงิน – รายชื่อคนทำโพย โยงคนในพรรคการเมืองใหญ่ จ่อเปิดหลักฐานในวันไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (24 ก.พ. 68) เวลา 10:30 น. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือถึง ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อขอให้พิจารณารับเป็นคดีฮั้วเลือก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 67 รับเป็นคดีพิเศษ
นายณฐพร เปิดเผยว่าวันนี้มายื่นเอกสารเพื่ออยากให้มีการพิสูจน์ว่าการเลือก สว.ครั้งที่ผ่านมา อาจเกิดความไม่เที่ยงธรรม โดยตนมีหลักฐานทั้ง ภาพ คลิปเสียง และหลักฐานพยานบุคคล จะนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 10 มีนาคมนี้ คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน จะสามารถยุติคดีนี้ได้
นายณฐพร อ้างว่า มีหลักฐานคนที่ทำโพยว่า มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตนจะเปิดชื่อในวันไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานการโอนเงินว่า โอนไปหาใคร ยอดเงินเท่าไหร่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และยังมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงพรรคการเมือง และตัวบุคคลระดับใหญ่ในพรรคการเมืองด้วย ซึ่งตนเอง จะไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้การเลือกตั้ง สว.เป็นโมฆะ รวมทั้งการกระทำดังกล่าวเป็นการทำแบบขบวนการ ตนจึงมองว่า เป็นข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และฟอกเงิน จึงเป็นอำนาจการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. จะมีความผิดด้วยหรือไม่ในฐานะที่รับรอง สว ชุดนี้ นายณฐพร กล่าวว่า ตนเคยไปยื่นเรื่องไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว และฟ้องอยู่ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เชื่อว่าถ้าคดีถึงที่สุดแล้ว กกต.ชุดนี้ไม่น่ารอด ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนมูลฟ้อง
ส่วนในคดีอาญา ดีเอสไอสอบสวนเสร็จพบว่ามีใครร่วมขบวนการก็ต้องส่งฟ้อง หากเป็นนักการเมืองก็จะส่งไปยังแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนการเลือก สว. จะเป็นโมฆะหรือไม่ ทางศาลรัฐธรรมนูญก็จะทำหนังสือทวงถามมาถึงดีเอสไอ และสภาทนายความเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการพิจารณา
ด้านนายวิเชียร กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากรับคำร้องในวันนี้ ว่า ตนเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคดีพิเศษ ก็จะนำเอกสารหลักฐานและคำร้องเข้าที่ประชุม เพื่อให้มีการอภิปรายร่วมกัน หากผลการประชุม มีมติ 2 ใน 3 ก็ถือว่าคดีดังกล่าวดีเอสไอ เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า คดีนี้ดีเอสไอไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมองว่าเป็นอำนาจของ กกต. นั้น ต้องแยกว่าถ้ามีความผิด เรื่องการเลือกตั้ง กกต.จะมีอำนาจสืบสวนสอบสวน แต่คดีนี้ เป็นคดีอาญา ที่เข้าคุณสมบัติคดีพิเศษ ดีเอสไอก็จะเป็นผู้พิจารณา
อย่างไรก็ตาม การประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ. 68) เวลา 13:00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม












