ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘พลเอกพิศาล’ หลังลาออก สส. รวยอู้ฟู่ 46 ล้าน
ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘พลเอกพิศาล’ หลังลาออก สส. รวยอู้ฟู่ 46 ล้าน สะสมวัตถุโบราณ-พระเครื่อง
วันนี้ (24 ม.ค. 68) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณี พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี กรณีพ้นจากตําแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อ 14 ต.ค.67
พลเอกพิศาล และนางมณีรัตน์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน รวม 46,103,958 บาท และมีหนี้สิน 186,112 บาท เป็นทรัพย์สินของพลเอกพิศาล รวม 10,675,196 บาท เป็นเงินฝาก 12 บัญชี รวม 2,842,196 บาท ที่ดิน ในจังหวัดเพชรบุรี สงขลา ขอนแก่น รวม 5 แปลงมูลค่า 5,280,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นห้องชุดในเขตบางเขน กทม. มูลค่า 300,000 บาท ยานพาหนะ 4 คัน มูลค่า 1,010,000 บาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 273,000 บาท ทรัพย์สินอื่น มูลค่า 970,000 บาท และมีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 186,112 บาท
พลเอกพิศาล แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 2,635,035 บาท แบ่งเป็นเงินเดือนและเงินเพิ่ม สส.รวม 860,858 บาท เงินบำนาญ 933,744 บาท ค่าตอบแทนบริษัท 840,433 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 1,430,000 บาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1,200,000 บาท ค่าอุปการะบิดามารดา 100,000 บาท เงินบริจาค 50,000 บาท
ส่วนนางมณีรัตน์ มีทรัพย์สิน รวม 35,428,762 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 5 บัญชี รวม 293,762 บาท ที่ดิน 9 แปลงทั้งในจังหวัดนนทบุรี เชียงใหม่ สงขลาประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่า 23,500,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นห้องชุดและบ้านพักในจังหวัดนนทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสงขลา รวม 5 หลังมูลค่า 10,300,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,335,000 บาท และมีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 0.48 บาท ไม่มีแจ้งรายได้หรือรายรับต่อปี
ส่วนทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของทั้งคู่ ประกอบด้วย พระเครื่อง 28 องค์ พระบูชา 10 องค์ ไม่ระบุมูลค่า นาฬิกา 5 เรือนรวมมูลค่า 1,030,000 บาท เครื่องประดับ 20 รายการ รวมมูลค่า 1,275,000 บาท วัตถุโบราณ 4 รายการ ไม่ระบุมูลค่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพลเอกพิศาล เป็นอดีตแม่ทัพภาค 4 ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งคดีหมดอายุความ 20 ปี ไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนคดีหมดอายุความพลเอกพิศาลได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุมถึงสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ 26 ส.ค.-30 ต.ค 67 อ้างว่าป่วยและเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ซึ่งขณะนั้นมีกระแสกดดันให้พลเอกพิศาล เดินทางมามอบตัว แต่พลเอกพิศาลก็ไม่ได้เดินทางมามอบตัว และยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย












