POLITICS

เครือข่ายนักกิจกรรมร้อง 4 พรรคฝ่ายค้าน ดันคืนสิทธิประกันตัว-ปกป้องเสรีภาพแสดงออกทุกมิติ

‘เพื่อไทย’ จี้ปล่อยตัวทุกคน ก่อนสายเกินแก้ ‘ก้าวไกล’ ชงนิรโทษกรรมคดีการเมือง ไม่ให้ใครต้องติดคุกอีก ‘ประชาชาติ’ ชูปฏิรูปศาลเป็นนโยบาย ‘เสรีรวมไทย’ ขอสู้เคียงบ่า สร้างประชาธิปไตยสมบูรณ์

วันนี้ (24 ม.ค. 66) เครือข่ายนักกิจกรรม ยื่นหนังสือเรื่อง “คืนสิทธิการประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดีการเมืองและการเสนอนโยบายเพื่อรับประกันสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ” ต่อพรรคร่วมฝ่ายค้านจำนวน 4 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ และพรรคเสรีรวมไทย ณ สัปปายะสภาสถาน อาคารรัฐสภา

นายรัฐภูมิ เลิศไพจิตร โฆษกกลุ่ม We Volunteer อ้างถึงข้อเรียกร้องของ นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม นักกิจกรรมที่ขอถอนประกันตนเองและปัจจุบันอดอาหารและน้ำเป็นเวลากว่า 6 วันแล้วขณะถูกคุมขังอยู่จนสถานการณ์แย่ลง เครือข่ายนักกิจกรรมจึงมีข้อเรียกร้องต่อพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 2 เรื่อง ได้แก่

1.การคืนสิทธิการประกันตัวให้ผู้ต้องหาทางการเมือง เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปี พ.ศ. 2560 มาตรา 29 วรรค 2 ได้รับรองหลักสันนิฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ (Presumption of innocence) ว่าเป็นหนึ่งในสิทธิของปวงชนชาวไทย โดยให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฎิบัติต่อบบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำผิดมิได้ แต่ความเป็นจริงนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีกลับไม่ได้สิทธิการประกันตัว ซึ่งอาจเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ

2.พรรคการเมืองควรมีนโยบายในการรับประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนต่อการแสดงออกทางการเมืองในทุกมิติ โดยเฉพาะพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่หวังว่าจะเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า เพราะการรับประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมิได้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนหรือผู้ต้องหาคดีทางการเมืองในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อลูกหลานของประเทศในอนาคต

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบรับว่า พรรคเพื่อไทยติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากรัฐบาลใช้กฎหมายที่ล้นเกินมาเป็นระยะเวลายาวนาน รัฐบาลชุดปัจจุบันใช้ไม้แข็งกับผู้ชุมนุมมาโดยตลอด อย่างการสลายการชุมนุมทางการเมือง

“สถานการณ์ในวันนี้อยู่ในจุดที่ตึงเครียด เริ่มจะเป็นทางคู่ขนานที่ประชาชนและรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่มีแนวทางที่จะเดินเข้ามาบรรจบกันได้ พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงการต่อสู้ของแบมและตะวัน เราชื่นชมและเห็นความตั้งมั่นที่ทั้ง 2 คนตัดสินใจในการใช้วิธีการอดข้าว อดน้ำ”

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อไปว่า จึงอยากเรียกร้องรัฐบาลในเบื้องต้นว่า การบังคับใช้กฎหมาย จัดการผู้ชุมนุมโดยให้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาและนำมาซึ่งความสงบของสังคมได้ อยากให้รัฐบาลตระหนัก รับฟัง และพูดคุยกับผู้ชุมนุม เพื่อให้บรรจบกันได้โดยสันติ ยอมรับความแตกต่าง และอยู่ร่วมกันได้ ฝากให้รัฐบาลรีบดำเนินการปลดปล่อยผู้ต้องขังคดีการเมืองทั้งหมด

“ถ้ามันจบด้วยความสูญเสียใด ๆ ก็ตาม สุดท้ายผมเกรงว่าสถานการณ์อาจบานปลายจนฉุดไม่อยู่” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว พร้อมยืนยันทิ้งท้ายในหลักสิทธิการประกันตัวว่าอยู่ในแนวทางของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด

ด้าน พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวตอบรับว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีโอกาสไปเยี่ยมตะวันและแบม สภาพจิตใจของทั้งคู่ยังเข้มแข็งแต่สภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว ซึ่งทั้งคู่ฝากขอบคุณพี่น้องที่อยู่ข้างนอกและยังยืนยันในความตั้งใจเดิม สิ่งที่เขาฝากมาในฐานะ ส.ส. คือเรื่องของสิทธิในการประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายกฎหมายของประเทศนี้เคารพกฎหมาย

ส่วนจุดยืนของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น คือ เราเห็นว่าระบบนิติรัฐบิดเบี้ยวตั้งแต่ต้นน้ำ ตำรวจ อัยการ จนถึงเรื่องการใช้กฎหมายในการฝากขังทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา (Pre-trial Detention) เป็นนวัตกรรมทางกฎหมายในการกดปราบประชาชนมากกว่ารักษาระบบนิติรัฐในประเทศนี้

“ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 อย่างน้อยก็ควรมีการแก้ไขเพื่อที่จะได้มีการพูดคุยกันในสภาฯ หากรัฐบาลชุดหน้าไม่อยากให้ประเทศไทยถึงทางตัน การนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และจะต้องไม่มีนักโทษทางความคิดคนไหนต้องติดคุกอีก” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

พรรคประชาชาติ มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ รับเรื่อง พร้อมกล่าวตอบรับว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วันนี้อยู่ในยุคอำนาจนิยม ยุคสืบทอดอำนาจ จึงมีการใช้ผู้บังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือขจัดคนเห็นต่าง ซึ่งการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ถือเป็นกระบวนการประชาธิปไตยโดยตรง หรือประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ต้องส่งเสริมตามหลักสิทธิมนุษยชน

“ถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูปศาล กระบวนการยุติธรรม องค์กรอิสระ ทหาร และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นนโยบายของพรรคประชาชาติ” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว

พรรคเสรีรวมไทย มีรองศาสตราจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย รับเรื่อง ตลอดจนกล่าวตอบรับว่า พรรคเสรีรวมไทยถือว่าการแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่รัฐบาลไม่ควรใช้อำนาจมาลิดรอนสิทธิประชาชนเหล่านี้ ไม่บังคับใช้กฎหมายเรื่องอื่นมาหาเรื่องเล่นงานผู้เห็นต่างการเมือง ซึ่งถือเป็นอันธพาลการเมือง

ส่วนจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทยคือ ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมือง รัฐต้องไม่ใช้อำนาจในการรังแกทำร้ายประชาชน และไม่ว่าผู้ต้องหายากดีมีจนหรือมีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร ต้องมีสิทธิทางประกันตัวอย่างเท่าเทียมกันทั้งประเทศ โดยต้องไม่มีเงื่อนไขเกินเลย พรรคเสรีรวมไทยพร้อมร่วมมือกับพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อเปลี่ยนประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

“พี่ ๆ เพื่อน ๆ พวกเรานักการเมือง พรรคการเมืองต่าง ๆ ให้กำลังใจ และพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับน้อง ๆ ทุกคน” ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย กล่าว

เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์

Related Posts

Send this to a friend