‘ปลัดแรงงาน’ รับปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจไม่ทัน 1 ต.ค.นี้
‘ปลัดแรงงาน’ รับปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท อาจไม่ทัน 1 ต.ค.นี้ ชี้ รอ ‘เมธี’ ลาออก หาตัวแทนแบงก์ชาติคนใหม่ร่วมไตรภาคี ยันทำงานเต็มที่ก่อนเกษียณอายุราชการ
วันนี้ (23 ก.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมบอร์ดค่าจ้าง เพื่อพิจารณาค่าแรงขี้นต่ำ 400 บาท หลังการประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายน ล่มมา 2 ครั้ง ว่า ได้รับการแจ้งจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. นายเมธี สุภาพงษ์ ไม่ได้เป็นตัวแทน ธปท. แล้ว จึงต้องรอให้ ธปท. ยืนยันกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษร และให้ส่งผู้แทนคนใหม่มา ส่วนนายเมธี ต้องลาออก เพราะการแต่งตั้งทำโดยมติ ครม. เป็นการตั้งโดยชื่อ ซึ่งการจะแต่งตั้งคนอื่นได้ ต้องลาออกก่อน
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ตัวแทนคนใหม่จะต้องเสนอชื่อผ่าน ครม. และประเด็นคือในวันที่ประชุมบอร์ดค่าจ้าง ยังคิดว่านายเมธี ยังเป็นตัวแทน ธปท. อยู่ เมื่อตรวจสอบส่วนราชการที่ไม่มาประชุมรวมถึง ธปท. ระบุว่าไม่รับผิดชอบการกระทำของนายเมธี ตนเองจึงได้ทำหนังสือไปยัง ธปท. ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นหลักฐานว่านายเมธีไม่เกี่ยวข้องแล้ว
นายไพโรจน์ ระบุว่า ระยะเวลาการทำงานของตนเองที่เหลือเพียง 6 วัน ก่อนเกษียณอายุราชการ จะทันกับการรับผิดชอบเรื่องนี้หรือไม่นั้น ก็ต้องรอหนังสือจาก ธปท. ตอบกลับมาก่อน
นายไพโรจน์ ยอมรับว่า การขึ้นค่าแรงน่าจะไม่ทัน 1 ตุลาคมนี้ แต่หากนายเมธี ลาออกภายในสัปดาห์นี้ และเราสามารถหาคนแทนนายเมธีได้ และเสนอเข้า ครม. ก็อาจจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ทัน ล่าช้าไป 1 – 2 สัปดาห์ และหลังจากตนเองเกษียณอายุราชการแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของปลัดไตรภาคี คือ ปลัดกระทรวงแรงงานคนใหม่ ยืนยันว่า ตนเองทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและทำเต็มที่
นายไพโรจน์ กล่าวว่า เรื่องค่าแรงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าไม่อยู่ในห้องประชุมก็ไม่รู้ว่าการพิจารณาแต่ละประเด็น ฝ่ายนายจ้างก็มีมุมมองหนึ่ง นายจ้างทุกคนมีเหตุผล ส่วนลูกจ้างก็มีเหตุผล ภาครัฐก็ต้องเป็นคนประสานเอามิติความคิดทั้งสองฝ่าย รวมถึงฝ่ายราชการมารวมในรูปแบบว่าจะขึ้นเท่าไหร่ ตนเองรู้ว่าสื่อมวลชนก็รอคำตอบอยู่