‘ประเสริฐ’ เผยผลปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เร่งออกกฎหมายพิเศษ ช่วยเหลือผู้เสียหาย

‘ประเสริฐ’ เผยผลปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กวาดล้าง ‘บัญชีม้า’ กว่า 1 ล้านบัญชี จับกุมคดีออนไลน์ 1,945 ราย ระงับซิมม้ากว่า 2.8 ล้านเลขหมาย เร่งออกกฎหมายพิเศษ ช่วยเหลือผู้เสียหายให้ทันท่วงที
วันนี้ (23 ก.ย. 67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อดำเนินงานการตามนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมได้พิจารณาผลดำเนินการและมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 8 เรื่องที่สำคัญ ดังนี้
1.การแก้กฎหมายเร่งด่วนช่วยผู้เสียหายและป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และเพิ่มความรับผิดชอบผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และสถาบันการเงิน โดยเร่งยกร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ฉบับที่ 2 คือ การเร่งคืนเงินผู้เสียหาย, การเพิ่มสิทธิ์ผู้เสียหายและเพิ่มความรับผิดชอบผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และสถาบันการเงิน, การเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล และบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก., การป้องกันการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างผิดกฎหมาย และการระงับการใช้ซิมที่ต้องสงสัย
จากการดำเนินการถึงเดือนสิงหาคม 2567 กระทรวงดีอีปรับเป็นพินัยกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม (ISP) ที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ให้บริการโทรคมนาคม 4 ราย และมีคำสั่งปรับพินัยรวม 677,500 บาท
2.การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ ในเดือนสิงหาคม จับกุมคดีออนไลน์รวมทุกประเภท 1,945 ราย ลดลงร้อยละ 22.04 เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม-มีนาคม จับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ 732 ราย ลดลงร้อยละ 31.20 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม-มีนาคม และจับกุมคดีซิมม้า บัญชีม้า 122 ราย ลดลงร้อยละ 49.17 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม-มีนาคม
3.การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน โดยปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ผิดกฎหมายโดยรวมทุกประเภท 138,660 รายการ เพิ่มขึ้น 11 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบ 2566 ปิดกั้นเพจ/URLs ที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ 58,273 รายการ เพิ่มขึ้น 34.3 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบ 2566
4.การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน ผลการดำเนินงานถึง 31 สิงหาคม 2567 ระงับบัญชีม้ารวมกว่า 1,000,000 บัญชี แบ่งเป็น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ปิด 450,000 บัญชี ธนาคาร 300,000 บัญชี และศูนย์ AOC 1441 ระงับ 291,256 บัญชี นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ยกระดับการป้องกัน โดยออกมาตราการระงับบัญชีของผู้ที่เปิดบัญชีให้คนร้ายทุกบัญชี และใช้มาตรการ CDD ตรวจสอบข้อมูลอย่างเข้มข้นตามระดับความเสี่ยงของผู้เปิดบัญชีใหม่
5.การแก้ไขปัญหาซิมม้า และซิมม้าที่ผูกกับ mobile banking โดยผลการดำเนินงานถึง 31 สิงหาคม 2567 กวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดยสำนักงาน กสทช. และผู้ให้บริการโทรคมนาคมระงับซิมม้าแล้วกว่า 2.8 ล้านเลขหมาย ระงับหมายเลขโทรออกเกิน 100 ครั้ง/วัน 80,731 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตน 418 เลขหมาย ไม่มายืนยันตัวตน 80,313 เลขหมาย
สำหรับมาตรการคัดกรองผู้ใช้งาน Mobile Banking ที่ต้องสงสัย โดยใช้ระบบคัดกรองผู้ใช้งานตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชนผู้ครอบครองหมายเลขโทรศัพท์ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียน Mobile Banking กับธนาคารหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 เบื้องต้นประเมินว่ามีผู้ใช้งาน Mobile Banking 18 ล้านบัญชี เข้าข่ายต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกหรือต้องทำการยืนยันตัวตนใหม่
6.การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดย กสทช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม ตรวจสอบการลักลอบลากสายสัญญาณข้ามแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต ณ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร และสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 2 พบการลักลอบลากสายสัญญาณจากบ้านเช่า ทำ Load Balance ลากสายสัญญาณไฟเบอร์ออฟติกไปยังตู้ชุมสายสัญญาณไฟเบอร์ออฟติก ของบริษัทฯ ผู้รับใบอนุญาตประเภท 1 และ 3 บริเวณสะพานมิตรภาพไทย –ลาว แห่งที่ 2 เชื่อมต่อไปสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
นอกจากนี้ กสทช. อยู่ระหว่างจัดทำ MOU ด้านการป้องกันการให้บริการระบบโทรคมนาคมข้ามพรมแดนเพื่อการก่อการร้ายทางเศรษฐกิจและสนับสนุนการค้ามนุษย์กับกองทัพไทย โดยจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกองทัพไทยช่วยสนับสนุนลาดตระเวนพื้นที่ชายแดนและตรวจสอบการใช้สัญญาณโทรคมนาคมข้ามพรมแดนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ กำหนดการลงนามภายในเดือนตุลาคม 2567
7.การแก้ปัญหาหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ มาตรการแก้ไขกฎหมาย COD หรือซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง โดย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการบริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ.2567 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
8.ศูนย์ AOC 1441 หารือร่วมกับ ตร. สมาคมธนาคารไทย สมาคมโทรคมนาคม แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ศูนย์ AOC 1441 เป็นแพลตฟอร์มรับและแลกเปลี่ยนข้อมูล ยกระดับการจัดการบัญชีม้า ซิมม้า และคนร้ายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น