วันนี้ (23 ก.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตจาก 68 ประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันด้วยหลักฐานว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ตรวจพบเป็นของฝ่ายกัมพูชาและเป็นการลอบวางใหม่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยและฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ผู้แทนจากสถานทูตกัมพูชาไม่ได้เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุป

นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า รัฐบาลไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อกัมพูชาแล้ว โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ประการคือ 1. ให้กัมพูชาตรวจสอบเหตุการณ์และแสดงความรับผิดชอบ 2. เยียวยาผู้เสียหาย และ 3. เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่เหลือทั้งหมดตามที่เคยตกลงกันไว้

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้ดำเนินการแจ้งเรื่องการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาของกัมพูชาต่อที่ประชุมรัฐภาคีแล้ว ขณะที่นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ได้ชี้แจงจุดยืนของไทยต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งต่างเห็นพ้องกับแนวทางการแก้ปัญหาของไทย

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้น เช่น การเรียกทูตกลับ แต่ยังไม่ถึงขั้นนั้น เนื่องจากไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสันติผ่านกลไกการเจรจาทวิภาคี ซึ่งทูตถือเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสาร