POLITICS

กต.เผยเร่งอพยพคนไทยออกจากพื้นที่สู้รบในตะวันออกกลาง ย้ำจุดยืนไทยเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง

กต.เผย ความคืบหน้าช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง เร่งอพยพคนไทยออกจากพื้นที่สู้รบ ย้ำจุดยืนไทยเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง

วันนี้ (23 มิ.ย. 68) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศอิสราเอลกับอิหร่าน ว่า ขณะนี้ความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือคนไทยในประเทศอิสราเอล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และฝ่ายแรงงาน รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคได้ประสานงานกับบริษัทก่อสร้างที่ต้องการนำแรงงานชุดแรก จำนวน 22 ราย กลับประเทศไทยแล้ว โดยเดินทางออกจากอิสราเอลทางบกในวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะเดินทางถึงไทยในวันนี้เวลา 19.20 น. อีกทั้ง สถานเอกอัครราชทูตยังอยู่ระหว่างการช่วยเหลือคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิสราเอลอีกจำนวน 12 ราย โดย 9 ราย จะออกจากอิสราเอลทางบกในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 และอีก 3 ราย จะเดินทางออกจากอิสราเอลในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 สถานเอกอัคราชทูตและฝ่ายแรงงานยังอยู่ระหว่างประสานงานกับบริษัทจัดหางานภาคการก่อสร้างของไทยถึงความเป็นไปได้ที่จะย้ายแรงงานภาคการก่อสร้างในอิสราเอลอีก 3,000 คน ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรอดูสถานการณ์หรือเดินทางกลับประเทศไทย

สำหรับในประเทศอิหร่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ช่วยเหลือคนไทยชุดแรกจำนวน 3 ราย ที่ประสงค์เดินทางออกนอกประเทศทางบก ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ปลอดภัยแล้ว และจะเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป รวมถึงกำลังอยู่ระหว่างประสานการช่วยเหลือคนไทยในอิหร่านจากเมืองต่าง ๆ อีกเป็นจำนวน 73 ราย ที่ประสงค์ออกจากอิหร่าน ฉะนั้นด้วยสถานการณ์ที่มีความสุ่มเสี่ยงขึ้นอย่างมากในกรุงเตหะราน สถานเอกอัครราชทูตจึงเปิดสถานที่ทำการชั่วคราว รวมถึงศูนย์พักพิง ที่เมืองวาน ประเทศตุรกี โดยคนไทยในอิหร่านสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือกับเอกอัครราชทูตได้ที่หมายเลขโทรศัพท์เดิม

นายนิกรเดช ยังกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ทั้งอิสราเอล และอิหร่านยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงขอให้คนไทยที่อยู่ในพื้นที่อิสราเอล และอิหร่านพิจารณาออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูตทั้ง 2 แห่ง ได้ตลอดเวลา ขณะนี้ความตึงเครียดมีการขยายตัวมากขึ้น จึงขอให้คนไทยในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลางติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และพิจารณาไม่เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็น

นอกเหนือจากการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอลและอิหร่านส่งผลกระทบต่อไทยในการวางท่าทีต่อมหาอำนาจของโลกหรือไม่ เพราะสหรัฐฯ ประกาศเป็นผู้สนับสนุนในการโจมตีแหล่งผลิตโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน นายนิกรเดช กล่าวว่า การประกาศเข้าร่วมสงครามตะวันออกกลางของอเมริกาในขณะนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อไทยในการวางท่าทีต่อมหาอำนาจของโลก เนื่องจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางขณะนี้ยังคงเป็นปัญหาระหว่างอิสราเอล และอิหร่าน โดยไทยวางท่าทีเป็นกลางต่อสหรัฐฯ และทุก ๆ ประเทศ ซึ่งท่าทีดังกล่าวยังส่งผลดีต่อการช่วยเหลือและอพยพคนไทย ทั้งจากการดำเนินงานของรัฐบาลเอง และการขอความช่วยเหลือจากประเทศต่าง ๆ ยืนยันว่าไม่มีการกดดันในการเลือกข้าง โดยการทูตไทยแสดงจุดยืนชัดเจน คือการเป็นห่วงความปลอดภัยของคนไทยในพื้นที่พร้อมแสดงความห่วงใยอยากให้สถานการณ์กลับมาสู่สันติภาพ

เมื่อถามต่อว่า จำเป็นต้องให้รัฐบาลเป็นคนอพยพหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีส่วนติดตามสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นรายชั่วโมงรายวัน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็มีหลายขั้นตอนในการพิจารณา แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น แนะนำว่าควรออกมาอยู่ศูนย์พักพิงในเมืองที่ปลอดภัย แต่ถ้าหากสถานการณ์แย่ลงก็จะอพยพออก

นายนิกรเดช ยังกล่าวถึงเรื่องอุปสรรค ในการเคลื่อนย้ายประชาชน จากปัญหาเรื่องการโจมตีทางอากาศนั้น ตอนนี้คาดการณ์อะไรได้ยาก ซึ่งทำได้เพียงการเคลื่อนย้ายผู้คนออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ปลอดภัย แต่ระยะทางที่การเดินทางผ่านนั้น มีภูมิศาสตร์ที่ค่อนข้างลำบากในบางจุด แม้ว่าจะมีความเสี่ยงบ้าง แต่ก็จะเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดในการเคลื่อนย้าย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat