’หมอชลน่าน’ ลั่นถ้าชกได้ชกแล้ว! ฝาก ‘ก้าวไกล’ พิจารณา หวั่น กระทบตั้งรัฐบาล
’หมอชลน่าน’ เดือด ถาม ‘ศิธา’ อยากเป็นรัฐบาลหรือนักข่าว ยินดีรับคำขอโทษ หากสำนึกก็จบ รับ มีอารมณ์แต่ยังคุมได้ ลั่นถ้าชกได้ชกแล้ว! ฝาก ‘ก้าวไกล’ พิจารณา หวั่น กระทบตั้งรัฐบาล
วันนี้ (24 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องตำหนิ นายศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย เสียมารยาทในการแถลงข่าว MOU จัดตั้งรัฐบาล ก่อนที่อีกฝ่ายจะออกมาตอบโต้กล่าวหาว่าตนเองถูกบางคนชี้แนะ ว่า ตนเองไม่ถือโทษโกธรเคือง แต่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในร่องรอย ถ้าขอโทษแล้วยินดีรับ
นพ.ชลน่าน เล่าว่า วันนั้นหลังจากทำ MOU ตนเองลงจากเวที ยังได้ชี้หน้าตำหนินายศิธาว่า จะทำตัวเป็นสื่อ หรือทำตัวเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะนายศิธาเองก็เป็นคนพิจารณาร่าง MOU อยู่ด้วย ซึ่งตนเองตำหนิแรงและดังด้วย คนที่อยู่ก็ได้ยิน แต่การไปเขียนต่อเติมเสริมแต่งในเฟซบุ๊ก ว่าหลังจาก ทำ MOU แล้วมีการดื่มสังสรรค์ชนแก้ว จนไปกล่าวหาว่าตนเองถูกบีบบังคับ ชี้แนะ ชี้นำ ถือว่าเสียหายมาก หากจะขอโทษต้องขอโทษส่วนนี้ด้วย ยืนยันว่าไม่โกธร เพราะเรากำลังจะมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ตนเองก็ไม่สบายใจในการทำงานร่วมกับนายศิธา ยกเว้นแต่พรรคแกนหลักบอกว่า พรรคของนายศิธา ที่ 6 เสียงจากการเลือกตั้งมีความสำคัญ ซึ่งก็จะมานั่งดูตัวเองว่าสำคัญหรือไม่
“ตรงนี้เป็นภาระของพรรคแกนนำหลักที่จะต้องไปทำความเข้าใจพรรคร่วมอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคไทยสร้างไทย ว่าพฤติกรรมแบบนี้จะเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ ให้มาปรับจูนแก้ไขด้วยกันดีหรือไม่ หากเขาพูดจบ ผมก็จบ แต่ถ้าไม่พูด ผมก็ไม่สบายใจถ้าพรรคแกนหลักไม่จัดการเรื่องนี้”
นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเล็กน้อย หากขอโทษและสำนึกก็จบ ถ้าพรรคก้าวไกลยังปล่อยให้เป็นประเด็นแบบนี้ การทำ MOU ที่ระบุว่า ต้องมีความจริงใจ ให้เกียรติกัน เขียนและลงนามกันเอง เพียงข้ามคืนก็มาเกิดประเด็นขึ้น ซึ่งมองว่ามันยากหรือไม่กับการทำงาน
“ผมเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่ถือโทษโกรธ ซึ่งจริงๆ แล้วคุณหญิงสุดารัตน์ขอโทษก็จบแล้ว แต่มาโพสต์และขยายความ จนเป็นประเด็น คำว่า เสียมารยาท หมายถึง คุณเป็นคนใน แต่ออกไปทำหน้าที่แบบคนนอก ถ้าประชาชนทั่วไปถาม สื่อมวลชนถามจะไม่ติดใจอะไรเลย”
ทั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน ระบุอีกว่า ตนเองไม่ทราบว่าสิ่งที่นายศิธาทำไปต้องการอะไร แต่การทำตัวแบบนั้นเป็นผู้แทนประชาชน มาบอกว่าต้องการให้กำจัดเผด็จการ โดยการมัดรวมกันเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตนเองมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เสียงข้างมากขนาดนี้จะไปเป็นฝ่ายค้านทำไม ทำไมไม่มัดรวมเป็นรัฐบาล คำถามก็ไม่ใช่แล้ว ยอมรับว่า วันนั้นตนเองก็มีอารมณ์ แต่ควบคุมอารมณ์ไว้
เมื่อถามว่า หลังจากนี้หากมีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมจะมีนายศิธาเข้าร่วมหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเขาเป็นแคนดิเดต ตัวแทนเขาก็ส่งเข้ามา ทุกอย่างต้องพูดในที่ประชุมให้จบ ห้ามนำออกไปขยายความข้างนอก ตามที่ได้ตกลงกันไว้
ส่วนจะกระทบต่อการแต่งตั้งตำแหน่งนายศิธาในรัฐบาลนี่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของพรรคแกนนำ ตนเองไม่มีอำนาจไปชี้ว่าให้เอานั่นเอานี่ ให้เกียรติกัน ไม่ติดใจจะเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งใด แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ทำงานร่วมกันยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนายแพทย์ชลน่านให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวแซวว่า เดือดเลยนะ ก่อนที่นายแพทย์ชลน่าน พูดว่า “ถ้าชกได้ผมชกไปแล้ว”