นายกฯ ยัน ไม่มีปัญหากับ ‘ชัชชาติ’ พร้อมทำงานร่วมกัน

นายกฯ ยัน ไม่มีปัญหากับ ‘ชัชชาติ’ พร้อมทำงานร่วมกัน แก้ปัญหาฝุ่น – จราจร – บุหรี่ไฟฟ้า ชี้ อยากเห็น กทม. เป็นเมืองที่น่าอยู่ คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น
วันนี้ (23 ก.พ. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการเร่งรัดการพัฒนากรุงเทพมหานคร ว่า แม้เราจะพยายามกระจายความเจริญไปสู่ต่างจังหวัด แต่ กทม. ก็ยังเป็นประเทศไทยเล็ก ๆ ตนเองได้ทราบถึงแผนงานทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว โดยนโยบายหลายอันก็สอดคล้องกัน กลับวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลแถลงไปเมื่อวานนี้ ตนเองจึงฝากไว้ว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำอะไรดี ๆ เยอะ แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้มีการสื่อสารกัน ไม่ใช่แค่การแถลงผลงานอย่างเดียว แต่แถลงให้ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หากประชาชนได้รับทราบ ก็จะนำไปปฏิบัติ แล้วทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และรัฐบาลเองก็มีการประสานงานใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรติดขัดกับรัฐบาล ก็ให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นผู้ประสาน เรื่องความปลอดภัย และเรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องที่สำคัญอันนี้ พยายามทำงานให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เช่น เรื่องการประกาศให้ Work From Home หากมีการประสานกัน ก็อาจจะประกาศพร้อมกัน เพราะจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
ส่วนปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการใช้ในเด็กเพิ่มขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่เราต้องจัดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะแพคเกจของบุหรี่ไฟฟ้ามีการทำให้เด็กสนใจ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ทั้งเรื่องการนำเข้าต้องเข้มงวดที่กรมศุลกากร ในการตรวจค้นมากยิ่งขึ้น ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับการกำชับให้แก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร ควรจริงจังมากกว่านี้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องแฟร์กับทางเจ้าหน้าที่ กทม. ทุกท่าน เพราะปัญหาฝุ่นมีทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้พิสูจน์ทราบได้ว่ามีปริมาณลดลงอย่างชัดเจน 2 ปีที่ผ่านมากทม. ก็ทำอะไรดี ๆ หลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่จนถึงเรื่องนโยบาย ย้ำว่า เจ้าหน้าที่ กทม. ไม่ได้ละเลย การขนส่งโดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็พยายามเสนอมาว่า ให้แก้ไขเรื่องนี้ ท่าเรือคลองเตยควรมีการย้ายหรือไม่ ยืนยันว่า รัฐบาล และ กทม. พยายามแก้ไขปัญหาอยู่ แต่จะให้ทั้งหมดกลายเป็นศูนย์เลยในระยะเวลานี้ คงไม่แฟร์กับทาง กทม. เท่าไหร่ ความจริงจัง ความจริงใจ มีอยู่แล้ว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ที่ต้องวิเคราะห์ให้ได้แท้จริง และต้องแก้ให้ถูกจุด ที่ผ่านมาเราดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น อย่างเรื่องพื้นที่การก่อสร้างก็มีการตรวจอย่างเข้มข้น โดยหากเราห้ามรถยนต์วิ่งในกรุงเทพฯ จะช่วยได้หรือไม่ แต่ข้อมูลในพื้นที่เขตมีนบุรี – หนองจอก รถยนต์ไม่ได้เยอะแต่มีปริมาณฝุ่นมาก ดังนั้น ก็ต้องพิจารณาว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้จริงหรือไม่ ซึ่งอาจมาจากพื้นที่ด้านนอกกรุงเทพมหานครด้วย เราต้องคิดอย่างละเอียดรอบคอบ ว่าจะกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างไร
ส่วนปัญหารถติดในกรุงเทพมหานคร จะส่งผลให้ฝุ่นเพิ่มขึ้นจะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไรนายชัชชาติ ระบุว่า ตนเองไม่แน่ใจ ว่ากลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ แต่การจราจรมีการบริหารจัดการอย่างชัดเจน ซึ่งเราต้องทำให้ได้ดีกว่านี้ สนับสนุนให้ประชาชนใช้รถสาธารณะมากยิ่งขึ้น
นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า หัวใจสำคัญของการแก้ปัญหารถติด ไม่ใช่การทำถนนเพิ่ม แต่คือการทำให้ระบบขนส่งสาธารณะดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ทำเส้นเลือดใหญ่จำนวนมากแล้วทำต่อกันมาหลายรัฐบาล ทำให้คนออกมาถึงรถไฟฟ้าได้เป็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่โดยตอนนี้กำลังทำทางเท้าให้ดีขึ้น 1,700 กิโลเมตร นำเทคโนโลยีมาช่วยปรับเรื่องไฟเขียวไฟแดงและจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้
ส่วนการพิจารณาเรื่องการย้ายท่าเรือคลองเตย จะพิจารณาในมิติของมูลค่าการขนส่งอย่างไรนั้นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องดูให้ครบทั้งองค์ โดยจะดูการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 2 และเฟส 3 ซึ่งต้องล้อกันไป โดยที่ไม่มีการกระทบกับการส่งออก
นายชัชชาติ ระบุว่า เรื่องการย้ายท่าเรือคลองเตยอยู่ในแผนวาระฝุ่นแห่งชาติตั้งแต่ปี 2562 และต้องมาทบทวนว่าจะดีหรือไม่ ซึ่งในต่างประเทศท่าเรือที่อยู่ในเมือง ก็ย้ายออกข้างนอกหมด แต่จะมีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำทะเลที่หนุนสูง หากเกิดขึ้นในอนาคต เราจะควบคุมอย่างไร ซึ่งเราต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้ง
สำหรับการติดกล้อง CCTV เพิ่มขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมานคร เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นแค่ปัจจัยเดียว การเอาเทคโนโลยีเข้ามา จะมีการพิจารณาที่ทำให้เพิ่มเติม และดีขึ้น
สำหรับวาระ 4 ปี นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการพัฒนาอะไรใน กทม. นายเศรษฐา ระบุว่า มีหลายอย่างซึ่งคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนต้องดีขึ้นและทำให้ กทม. เป็นเมืองที่น่าอยู่
เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันของทางรัฐบาล และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากดูจากภาษากายก็จะทราบว่าไม่ได้มีปัญหากันมีการเชิญมาตัวเองก็ยินดีมาย้ำว่ามีการคุยกันตลอดเวลายกหูสายตรงได้ตลอดเรื่องนี้ไม่มีปัญหาใดใดทั้งสิ้นและไม่เคยมีด้วย
สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสามของปีหน้า รัฐบาลจะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้กับกรุงเทพมานครอย่างไร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รอให้ทางนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้แถลง