POLITICS

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา ร้อง ก.คลัง ตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับในประเทศของเอกชน

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ร้องกระทรวงการคลัง ตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับในประเทศของเอกชน หวั่นกระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชน

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา (สร.สร.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เดินทางมายังกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 66 เพื่อเรียกร้องต่อนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับในประเทศของเอกชน รวมถึงให้องค์การสุรายังคงเป็นรัฐวิสาหกิจในการจัดบริการสาธารณะด้านสุราสามทับและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของประเทศแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขององค์การสุรา ได้สาธิตการเจือจางวัตถุเจือปนอาหารของเอกชนที่ไม่ต้องเสียภาษี กับสุราสามทับขององค์การสุราที่ต้องเสียภาษีร้อยละ 6 ซึ่งพบว่าทั้งสองผลิตภัณฑ์มีคุณลักษณะเป็นสุราเหมือนกัน โดยเมื่อวัดแรงแอลกอฮอล์ในสินค้าวัตถุเจือปนอาหารของเอกชน พบว่ามีแรงแอลกอฮอล์ 95 ดีกรี แต่กลับไม่เป็นสินค้าในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต และไม่มีการควบคุม แต่กรมสรรพสามิตกลับไม่แก้ไขปัญหาให้หน่วยงานในกำกับ

นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า สรส. สนับสนุนช่วยเหลือองค์กรสมาชิก กรณี สร.สร. ขับเคลื่อนกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้องค์การสุราทำหน้าที่จัดบริการสาธารณะด้านสุราสามทับและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของประเทศเพื่อความมั่นคงของชาติและประชาชน สะท้อนถึงข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหาตั้งแต่ปลายปี 2564 โดยคาดหวังว่าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมสรรพสามิต สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกระทรวงการคลัง จะมองเห็นปัญหาแล้วแสวงหาแนวทางร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม สรส.พิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ขององค์การสุรายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่กลับตกอยู่ในขั้นวิกฤต ผลประกอบการนับตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่องอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนนับตั้งแต่การก่อตั้งองค์การสุรา และมีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้องค์การสุราไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

สรส. มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับ รวมถึงที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องในประเทศ อาจมีการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้เอกชนจนส่งผลให้รัฐและองค์การสุราเสียหาย สูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี จึงขอให้กระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน ปกป้องและพัฒนารัฐวิสาหกิจในกำกับให้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแสวงหาแนวทางเพื่อนำไปสู่การขจัดปัญหาร่วมกัน จึงมีข้อเสนอ ดังนี้

1.สรส. ขอสนับสนุนข้อร้องเรียนของ สร.สร. พร้อมขอให้กระทรวงการคลังตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับการดำเนินการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับในประเทศให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 และกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565

2.ขอให้กระทรวงการคลังให้ความสำคัญและพัฒนาศักยภาพขององค์การสุรา ให้ยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจในการจัดบริการสาธารณะด้านสุราสามทับและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของประเทศเพื่อความมั่นคงของชาติและประชาชน

3.ขอให้กระทรวงการคลังตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ องค์การสุรา สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เพื่อปรึกษาหารือ แสวงหาแนวทางอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนร่วมกันที่ยั่งยืนต่อไป

นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมาเป็นตัวแทนรับเรื่อง กล่าวว่า รัฐบาล กระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิต จะเร่งดำเนินการหาทางออก และไม่แบ่งแยกว่าเป็นข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ แต่จะคำนึงถึงความอยู่รอดขององค์การ และผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ รวมถึงจะพิจารณาประเด็นปัญหาจากคำร้องเรียนทั้งหมด

หลังรับเรื่องแล้ว นางสาวฐิติภัสร์ ได้ให้คณะผู้บริหารองค์การสุรา สร.สร. และ สรส. ส่งตัวแทนเข้าหารือเพื่อหาข้อสรุป และหาทางออกต่อไป ขณะที่ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะได้ยื่นหนังสือทวงถามต่อข้อเรียกร้องขององค์การสุรา กับผู้ตรวจการแผ่นดินอีกด้วย

Related Posts

Send this to a friend