กทม.พร้อม 100% จัดงานลอยกระทง คุมเข้มโป๊ะ-ท่าเรือ ห้ามจุดพลุ ประทัด โคมลอยเด็ดขาด

วันนี้ (22 พ.ย.66) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ดูความปลอดภัยโป๊ะ ท่าเรือ เตรียมความพร้อมสำหรับเทศกาลลอยกระทงที่สะพานพระราม 8 ว่าเรื่องความปลอดภัย รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรวจสอบโป๊ะ ท่าเรือแล้ว ย้ำว่ามีความพร้อม 100% วันงานจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลด้วย โดยโป๊ะหรือท่าเรือใดที่ไม่ผ่านมาตรฐานก็จะไม่เปิดให้ใช้งาน ซึ่งจุดใดไม่เปิดให้ใช้งานจะมีป้ายสัญลักษณ์แจ้งเตือนไว้

เรามีเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตำรวจท่องเที่ยวดูแลไม่ให้ประชนแห่ลงไปแล้วที่โป๊ะ แล้วเกิดเหตุโป๊ะล่ม บางที่ก็จะไม่ให้ลงไปบริเวณท่าน้ำ ยกตัวอย่างที่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กระทรวงวัฒนธรรมที่เป็นแม่งานหลัก จะให้ลอยกระทงผ่านราง เพื่อลดความเสี่ยงให้คนลงไปที่โป๊ะหรือริมแม่น้ำ พร้อมฝากเตือนถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานด้วย

สำหรับจุดที่คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานเทศกาลลอยกระทงเป็นจำนวนมาก ได้แก่ สะพานพระราม 8 คลองผดุงกรุงเกษม คลองโอ่งอ่าง และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งกรุงเทพมหานครจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลเป็นพิเศษ ขณะที่ตรวจพลุและประทัด จะไม่อนุญาตให้จุดเด็ดขาด โดยประชาชนที่พบเห็นสามารถแจ้งไปที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่เทศกิจของกรุงเทพมหานครได้

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความพร้อมของกรุงเทพมหานครในการดูแลความปลอดภัยทั้งทางบก และทางน้ำในเทศกาลลอยกระทง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับสำนักการแพทย์ จัดเรือดับเพลิงและเรือกู้ชีวิต ลาดตระเวนดูแลความพร้อมภัยตลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระราม 9 รวมระยะทาง 20.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระปิ่นเกล้า ประกอบด้วย เรือดับเพลิง 38 ฟุต จำนวน 2 ลำ เรือเจ็ทสกี จำนวน 2 ลำ เรือกู้ชีพ โรงพยาบาลวชิระ จำนวน 1 ลำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ

ช่วงที่ 2 ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึงสะพานตากสิน ประกอบด้วยเรือดับเพลิง 38 ฟุต จำนวน 2 ลำ เรือกู้ชีพ โรงพยาบาลตากสิน จำนวน 1 ลำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ

ช่วงที่ 3 ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถึงสะพานพระราม 9 ประกอบด้วย เรือดับเพลิง 38 ฟุต จำนวน 2 ลำ เรือกู้ชีพ โรงพยาบาลเจริญกรุง จำนวน 1 ลำ เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ

ทั้งนี้พื้นที่ลอยกระทง บริเวณสวนสาธารณะและริมคลอง รวมถึงจุดท่าเทียบเรือและโป๊ะ จะจัดเจ้าหน้าที่จุดละ 2 นาย พร้อมรถดับเพลิง รถไฟส่องสว่าง ถังดับเพลิงและอุปกรณ์ช่วยชีวิต ประกอบด้วย เสื้อชูชีพ ห่วงยาง ช่วยชีวิต เชือกช่วยชีวิตไว้ด้วย

นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร ยังออกประกาศเรื่องมาตรการป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันในช่วงวันลอยกระทง ห้ามมิให้จุดพลุ ประทัด และห้ามปล่อยโคมลอย หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ฝ่าฝืนอย่างเข้มงวด ตรวจสอบผ่านกล้อง CCTV ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งบริเวณสวนสาธารณะพระราม 8 จะมีกล้อง CCTV จำนวน 37 กล้อง