เครือข่ายประชาชนค้านนำกัญชามาเป็นยาเสพติด ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
เครือข่ายประชาชนค้านนำกัญชามาเป็นยาเสพติด ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หวั่นเอื้อนายทุน-เกษตรกรขาดทุน ขออย่าทำเป็นเรื่องการเมือง
วันนี้ (22 พ.ย. 65) เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชา นำโดย นายประสิทธิชัย หนูนวล ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้พิจารณายกเลิกการผลักดันกัญชากลับไปสู่บัญชียาเสพติด โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ

เนื่องด้วยสถานการณ์เรื่องกัญชาในประเทศไทย ได้กลายมาเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสังคม ประกอบกับความขัดแย้งในทางการเมืองส่งผลให้เกิดความความสับสนแก่สังคม เกิดความไม่แน่นอนในเรื่อง ของกฎหมายและการบังคับใช้ จนเกิดเหตุการณ์การยื่นฟ้องศาลปกครองของพรรคการเมืองเพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ก.พ. 2565 ที่ถอดกัญชา ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ด้งเดิม

เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชา ที่ทำงานผลักดันเรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายกัญชาในประเทศไทยมา มากกว่า 10 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแม้เราจะยืนยันสิทธิในการใช้กัญชาของเราบนขอบเขตที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม แต่สิ่งที่ประชาชนต้องเจอนั้นมีมากกว่าที่สังคมได้รับรู้และเข้าใจเป็นอย่างมาก เราในฐานะประชาชนคนธรรมดาที่ ถูกกฎหมายบัญญัติว่าการใช้กัญชาของเรานั้นเป็นอาชญากรรม ส่งผลให้เราต้องเผชิญกับการเอารัดเอาเปรียบ การรีดไถจาก เจ้าหน้าที่รัฐ ถูกปฏิบัติเยี่ยงอาชญากร ถูกสังคมตีตราว่าเป็นคนไม่ดี ถูกดำเนินคดีด้วยโทษที่รุนแรงอย่างไม่เป็นเหตุเป็น ผล ทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ภายใต้ความหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย
หากวันนี้กัญชาต้องกลับเข้าไปอยู่ในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง ภาคประชาชนเห็นว่าผลกระทบที่ตามมา และผลเสียที่จะเกิดขึ้นนั้นจะสร้างความเสียหายกับประชาชนในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลให้มีประชาชนมากมายที่จะถูก ดำเนินคดีทางอาญาทั้งในฐานะผู้เสพ ผู้ค้า ผู้ผลิต ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจที่อยากจะทำสิ่งดีๆ ให้เกิดการพัฒนาอยู่ภายในกรอบของกฎหมายกฎกติกาของสังคม ต้องติดร่างแหไปด้วย

ภาคประชาชนจึงขอยื่นหนังสือถึงพรรคการเมืองทุกพรรคในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นการค้ดค้านการน่ากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง และเพื่อแก้ไขข้อกังวลของสังคม เสนอให้ออกกฏหมาย โดยเพิ่มเนื้อหาของกฏหมายเพื่อควบคุมการใช้กัญชาในเชิงสันทนาการให้มีความชัดเจนตามแบบสากล มีการหากฎหมาย และแยกชัดเจนระหว่างการแพทย์ กับ สันทนาการ เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ใช้ และสังคม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการ ป้องกันปัญหาสุขภาพ และป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน รวมถึงป้องกันปัญหาลักลอบค้ากัญชาผิดกฎหมาย โดยการทําระเบียบควบคุมทั้งระบบ และไม่สร้างเงื่อนไขกีดกันทางการค้า และการจำกัดสิทธิ์ใดๆ ที่ขัดแย้งกับบริบท ของกฎหมาย ที่ประชาชนควรจะได้รับอย่างถูกต้อง
เรื่อง: ทศ ลิ้มสดใส
ภาพ: พุฒิพงษ์ ธัญญพันธุ์













