‘พี่หนู วปอ.61’ รายงานตัว เห็นต่างผู้นำในอดีต คอนเนกชั่นสำคัญต้องใช้ประโยชน์ให้ถูก
‘พี่หนู วปอ.61’ รายงานตัว เห็นต่างผู้นำในอดีต คอนเนกชั่นสำคัญต้องใช้ประโยชน์ให้ถูก ชี้รัฐบาลมีเวลาไม่มากพร้อมแก้ปัญหาชายแดน ลั่นไทยได้เปรียบทุกประตู สะกดคำว่ายอมไม่เป็น
วันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 14.00 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ

นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายของการแถลงผลการศึกษา เริ่มต้นด้วยการทักทายว่า ”ผมอนุทิน พี่หนู วปอ.61 วปอ.นกหัวขวานรายงานตัวครับ“ เชื่อว่ามากกว่า 90% รู้จักกันมาก่อนจึงขออนุญาตพบปะกับพี่ ๆ ทุกคนในฐานะที่เป็นศิษย์ วปอ.ด้วยกัน ตนเองมาทุกปี เรียน วปอ.61 ช่วงใกล้จบการศึกษาปี 62 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้มารับฟังการแถลงผลการศึกษาด้วย
ตนเองเห็นคุณค่าของการเป็นนักศึกษา วปอ.อย่างมากมาย อาจจะมีมุมมองแตกต่างจากผู้นำรัฐบาลท่านอื่น การเรียนหลักสูตรนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสักครู่ตนเองไม่ได้นั่งเฉย ๆ หรือนั่งเล่นโทรศัพท์หูฟังตลอดเวลาว่า พี่ ๆ นำเสนออย่างไรบ้าง เปรียบเสมือนว่าเรารับนโยบายจากพี่ ๆ วปอ.รุ่น 67 อาจจะต้องไปร้องเพลง “พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้เรามาพบกันทันใด”

เพราะสิ่งที่นำเสนอช่างเหมือนกับนโยบายของรัฐบาล ตนเองที่กำลังจะแถลงในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ นโยบายของรัฐบาลจะยึดถือวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้ เทคโนโลยีที่ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที ไม่ให้เราล้าหลัง พร้อมกล่าวว่า วปอ.61 ของตนเองมีครบทุกเหล่าทัพ เหลืออย่างเดียวไม่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงไม่ได้ขาดอะไร ตนเองจะขับเคลื่อนด้วยหลัก STECCC ประกอบด้วย
Systematic-ขับเคลื่อนต้องมีระบบ
Thainess-ความเป็นเอกลักษณ์ของไทย เชื่อถือได้ ราคายุติธรรม
Exponential ขยายศักยภาพแบบเขย่งก้าวกระโดด 2 กำลัง 10 เปิดช่องทางให้ไทยไปยืนบนเวทีโลกได้
Connectivity-เชื่อมต่อ สายสัมพันธ์ เงินก็ซื้อไม่ได้
Continuity-ต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
Costructive-คิดเป็นบวก คิดก้าวหน้า

”ประเทศไทยที่เราเบื่อหน่ายจะก้าวหน้าสักที ใครที่เคยดูถูกว่าพลังมวลชนไม่มีความหมายพูดเลยว่าเปิดด่าน พูดเลยว่าเกี๊ยเซี๊ยะ พูดเลยว่ายอมเขา แล้วท่านจะรู้ว่านรกมีจริง“ นานอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่าแม้ว่ามีเวลาไม่มากแต่เราจะทำให้ความคาดหวังของพวกพี่และความตั้งใจของพวกตนเองไปบรรจบกันที่เป้าหมาย แยกกันเดินรวมกันตี ทหารก็รบไป คิดยุทธศาสตร์ไป พวกตนก็หาวิธี กดดันกัน วันนี้ยอมไม่ได้ มาถึงขนาดนี้แล้วมีแต่เราต้องไล่ตี กำหนดเงื่อนไขเชิงรุกคนที่มีปัญหากับเราต้องยอมรับ

พี่ ๆ ทุกคนบอกว่าประเทศไทยได้เปรียบทุกประตูทางด้านเศรษฐกิจและแสนยานุภาพ จะให้ไปเจรจาแล้วจะยอมก่อน เชื่อว่าพวกพี่กับตนเองสะกดคำพวกนี้ไม่เป็น ตนเองไม่อยากใช้คำว่าได้เปรียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากเรามีความพร้อมกว่าคนที่มีปัญหาด้วย เราจึงต้องใช้ความพร้อมนี้สร้างคุณประโยชน์ในสิ่งที่ประชาชนของประเทศต้องการให้มากที่สุด
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมในนามรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และฝ่ายปกครองจะใช้แนวทางนี้ในการดำเนินยุทธศาสตร์ต่อกรกับคนที่มีปัญหาอยู่”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน เป็นศิษย์เก่านักศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ปี 61 และถือเป็นศิษย์เก่า วปอ.ลำดับที่ 7 ที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญคือ นายกรัฐมนตรี













