‘ชัยชนะ’ บอกไม่ทราบ ปชป.จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ชี้ ทุกอย่างมีขั้นมีตอน
‘ชัยชนะ’ บอก ปชป. มีขั้นตอน จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ชี้ ร่วมงานแสดงวิสัยทัศน์ จะเจอ ‘ทักษิณ‘ ก็เจอ เพราะมางานเดียวกัน
วันนี้ (22 ส.ค. 67) นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกระแสข่าวจะเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ยังไม่ทราบ ตนเองทราบทุกอย่างจากข่าวเหมือนกัน แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ทราบอะไรเลย เพราะหัวหน้าพรรคก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล ต้องมีการเทียบเชิญ และเข้าประชุมกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. ข่าวก็คือข่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าคุณสมบัติของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค สามารถเป็นได้หรือไม่ เพราะตามกระแสข่าวระบุว่า หากไม่ได้ก็จะให้นายชัยชนะเป็นแทน นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ คิดว่าคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคพร้อมอยู่แล้ว แต่การมีชื่อออกไปที่สื่อ มีได้อย่างไร ต้องไปถามสื่อ และย้ำว่าในข้อเท็จจริงยังไม่ทราบ
นายชัยชนะกล่าวถึงกระแสสังคมว่าเมื่อพร้อมร่วมรัฐบาลแล้วทำไมถึงยังไม่ประกาศ ว่า อย่าใช้คำว่าพร้อมที่จะไป ประชาธิปัตย์มีกระบวนการมีขั้นตอนอยู่ คิดว่าวันนี้ สิ่งที่เป็นอยู่ตามข่าว ก็มาจากสื่อมวลชน ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ยืนยัน ก็ต้องรอมีการประชุมพรรค ก็ต้องไปถามสื่อว่าที่พรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลได้อย่างไร
ส่วนความเห็นของ นายเดชอิศช์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัติย์ พอจะมีน้ำหนักหรือเป็นแค่ความเห็น นายชัยชนะ ระบุว่า ก็ต้องถามนายเดชอิศช์ ตนเองมั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์ว่าต้องเข้าที่ประชุมอยู่แล้ว
นายชัยชนะ กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ จะส่งผลให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา จนทำให้การเลือกตั้งในครั้งหน้าสูญพันธุ์ ว่า ตนเองคิดว่าอย่าไปมองแบบนั้น ทำไมต้องเสื่อมศรัทธา หรือสูญพันธุ์ พรรคการเมืองทุกพรรคมีชีวิต และตัวตนทั้งหมด และถ้าวันนี้เรายังยืนหยัดอยู่กับความขัดแย้งในอดีต และเราไม่เดินไปข้างหน้า แล้วประเทศจะเดินหน้าไปได้อย่างไร อย่าไปมองหรือตั้งโจทย์ว่าวันนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาลจะสูญพันธุ์ หรือจะเสียจุดยืน ถ้าคิดว่าเพื่อประเทศชาติ ก็ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน
เมื่อถามถึงการมาร่วมงาน Dinner talk vision for Thailand ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะพูดถึงทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในวันนี้ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนเองมาร่วมงาน เพราะเขาเชิญมา ไม่มีนัยยะอะไร ส่วนจะเจอกันหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ มาร่วมงานเดียวกัน ถ้าเจอก็เจอ
