‘รอมฎอน’ จี้รัฐบาลแพทองธารมีนโยบายแก้ปัญหาสามจังหวัดที่ชัดเจน
‘รอมฎอน’ เตรียมสังเกตการณ์ศาลนัดฟังคำสั่งคดีตากใบพรุ่งนี้ จี้รัฐบาลแพทองธารมีนโยบายแก้ปัญหาสามจังหวัดที่ชัดเจน
วันนี้ (22 ส.ค. 67) นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่จะเดินทางไปติดตามการพิจารณาคดีตากใบในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.67) ว่าคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ หรือเหลือเวลาเพียง 64 วัน โดยพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ศาลนราธิวาสจะนัดฟังคำสั่ง เพื่อตัดสินว่าคดีตากใบมีมูลศาลจะประทับรับฟ้อง หรือจะพิพากษายกฟ้อง
คดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลข อ.578/2567 เริ่มต้นคดีจากผู้เสียหาย 48 รายเป็นโจทก์ฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้าสภ.ตากใบเมื่อวันที่ 25 ต.ค.47 มีจำเลยในคดี 9 คน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ก่อนหน้านี้ตนเองเข้าสังเกตการณ์นัดไต่สวนมูลฟ้องเมื่อ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการไต่สวนพยานโจทก์ 2 รายคือลูกสาวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจนพิการ ช่วงท้ายผู้พิพากษาที่นั่งบัลลังก์ระบุว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญ อยากให้มีคำสั่งภายใน 3 วัน แต่ผู้พิพากษาได้ชี้แจงในห้องพิจารณาคดีว่ามีระเบียบภายในกำหนดไว้ว่าหากเป็นคดีสำคัญจะต้องมีการตรวจร่างคำสั่งและคำพิพากษา โดยอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 เสียก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน จึงนัดฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้
ในคำแถลงรายงานกระบวนกระบวนการพิจารณาคดีนี้ ศาลเห็นว่าคดีนี้เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานและมีผู้ได้รับผลกระทบหลายฝ่าย พฤติการณ์ในคดีเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ และกระบวนการสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริบททางการเมือง ผลของคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ จะกำหนดทิศทาง และการอำนวยความยุติธรรมในคดีตากใบว่าจะไปในทิศทางใด ภายใต้กรอบระยะเวลาอีก 2 เดือนที่อายุความจะหมดลง หากศาลเห็นว่ามีมูลและประทับรับฟ้องศาลส่งหมายเรียกให้จำเลยมาเบิกความต่อศาลก่อนวันที่ 25 ต.ค.67 หากศาลมีคำพิพากษาไม่รับฟ้อง จะต้องติดตามว่าฝ่ายผู้ร้องจะอุทธรณ์หรือไม่ ทำให้กระบวนการพิจารณาทอดยาวออกไปอีก
นอกจากนี้มีการดำเนินคดีคู่ขนานกันไปอีกคดีหนึ่ง คดีอาญาหมายเลข 13/2567 สภ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี เกิดขึ้นเนื่องจากการทักท้วงในคณะกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรถามถึงความคืบหน้าของคดีอาญา ตำรวจภูธรภาค 9 จึงตั้งคณะทำงานขึ้นมา และวันที่ 25 เม.ย.67 พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด อัยการสูงสุดเห็นควร สั่งไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ 8 คน จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าตำรวจภูธรภาค 9 ได้ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 และต้องติดตามว่าอัยการสูงสุดจะสั่งฟ้องในคดีนี้หรือไม่
ทั้งนี้เมื่อมีการส่งสำนวนจากตำรวจไปให้อัยการแล้ว ตัวแทนญาติของผู้เสียชีวิตได้มีหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด โดยอ้างว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวนล่าช้าไม่เป็นธรรม จึงขอให้อัยการสูงสุดแจ้งความคืบหน้า พร้อมให้อัยการเร่งรัดดำเนินคดีก่อนหมดอายุความ จากนั้น 2 ก.ค.67 อัยการสูงสุดมีหนังสือส่งกลับมายังตัวแทนของครอบครัว อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมีคำสั่งยุติ เรื่อง ขอความเป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ โดยไม่มีการระบุเหตุผล
คดีตากใบเป็นปมปัญหาสำคัญของความขัดแย้งในชายแดนใต้ หากสถาบันในสังคมไทยไม่อาจอำนวยความยุติธรรมได้ก็ยากที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ความยุติธรรมในคดีตากใบเกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภาพที่ต้องการพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ และความมั่นใจในสถาบันสังคมการเมืองไทย ศาลได้ระบุเอาไว้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติและกระบวนการสันติภาพ
นายรอมฎอน กล่าวต่อว่าเดิมตนเองตั้งใจจะถามกระทู้สด นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 8 ส.ค.67 ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาลใหม่ไม่ว่าจะมาช้าหรือมาเร็วต้องเตรียมคำตอบไว้ สำคัญคือคดีตากใบเกิดในช่วงการบริหารงานของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่น้องประชาชนจึงอยากเห็นว่าฝ่ายบริหารมีท่าทีอย่างไร
เมื่อ 2 ปีที่แล้วนายทักษิณเคยกล่าวคำขอโทษต่อพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตากใบแล้ว จึงคาดหวังว่ารัฐบาลที่มีองค์ประกอบจากพรรคการเมืองที่มีเสียงมาจากจังหวัดชายแดนใต้จะดำเนินการอะไรที่มากกว่านี้ ภายใต้เงื่อนไขอายุความที่กำลังจะสิ้นสุดลง รัฐบาลนี้จะมีความชัดเจนมากกว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา ตั้งแต่การแถลงนโยบาย นายเศรษฐาไม่ได้ระบุชัดเจนถึงทิศทางกับการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ คาดหวังว่าในรัฐบาลนี้จะมีความชัดเจน ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะแก้ปัญหาได้ รัฐบาลต้องชี้ทิศชี้ทางว่าจะไปทางใด หากปราศจากทิศทาง การแก้ปัญหาจะอยู่ภายใต้หน่วยงานราชการตามปกติ
ฝ่ายบริหารควรดำเนินการมากกว่านั่งรอเฉย ๆ ในรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ช่วยเหลือเยียวยาแล้ วแต่ปมปัญหาคือคนต้องการความยุติธรรมและข้อเท็จจริงว่าผู้เสียชีวิตตายเพราะอะไร โดยใคร และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่แค่คำสั่งการชันสูตรพลิกศพ ในทางการเมืองเรื่องนี้สำคัญ เพราะหากต้องการสร้างสันติภาพ ปมดำมืดควรได้รับการคลี่คลายได้รับการใส่ใจและแสดงความชัดเจน คาดหวังว่ารัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้












