‘ดิเรกฤทธิ์’ เชื่อ สว.โหวตให้ ‘เศรษฐา’ มั่นใจไม่มีแจกกล้วย 30 ล้าน
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าเสียงโหวตของ สว.จะเพียงพอ ให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่าต้องฟังการอภิปราย ทั้ง สส.และ สว. เพราะเป็นวิธีแสดงความไว้วางใจของคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาล ที่มีทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย อาจจะต้องอภิปราย ว่านายเศรษฐามีความเหมาะสมอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าต้องมีความเป็นกลาง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การได้เสียงข้างมาก ก็จะได้เสียง สส. 100 คะแนนเต็มไว้อยู่แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าฝั่งก้าวไกลจะอภิปราย นายเศรษฐา ว่าอย่างไร
นายดิเรกฤทธิ์ ยังเปิดเผยว่า สว. ได้รับข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ รวมถึงสื่อต่าง ๆ แม้กระทั่งกรณีของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ร้องเรียนเรื่องการเก็บค่าผ่านทาง ในส่วนที่เป็นทางสาธารณะ เป็นข้อเท็จจริงที่ประชาชนยังมีความสงสัย ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกรัฐสภา
นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวให้คะแนนนายเศรษฐาเต็ม 100 คะแนน ในช่วงต้น ถ้าอธิบาย เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จะไม่มีการตัดคะแนน และหากอธิบายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่ให้มี สสร. ว่าไม่เป็นปัญหากับประเทศ ก็จะไม่หักคะแนน และจะลงคะแนนให้ ซึ่งข้อมูลสุดท้ายก่อนตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับการอภิปรายของ สส. และ สว.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการแจกกล้วยให้กับ สว.ซึ่งมีค่าหัวสูงถึง 30 ล้านบาท และจ่ายมัดจำไว้ก่อน 6-7 ล้านนั้น นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า เหมือนกับครั้งก่อนที่มีข่าวเรื่องกล้วยเข้ามา เป็นการชี้นำในการลงคะแนน ไม่ทราบว่าการปล่อยข่าวเรื่องนี้ ใครได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ คนที่เลือกนายเศรษฐาอยู่แล้ว ถ้าถูกกล่าวหาจะรู้สึกไม่ดี อาจจะเปลี่ยนใจหรือไม่ ก็ไม่รู้ แต่คิดว่าไม่เป็นจริง เพราะความลับไม่มีในโลก เชื่อว่าไม่มีใครทำอย่างนั้น เนื่องจากมีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน หากไปรับเงิน จะเกิดการด่างพร้อยกับประวัติของตัวเองและวงศ์ตระกูล เชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ ไม่น่าจะมีใครเอาเรื่องนี้ มาทำไม่ดี
เมื่อถามว่าเสียงของ สว.จะโหวตให้นายเศรษฐาผ่านหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ ระบุว่า สว.มี 249 คน คิดว่าหลายคนอยากให้บ้านเมืองเดินต่อได้ และหลายคนก็เคารพกติกาประชาธิปไตย มองว่า สว.เป็นบทบาทที่เติมเต็มกลไกรัฐสภา และเป็นที่เชื่อถือของประชาชน ควรดำเนินการตามนั้น ส่วนตัวคิดว่าการโหวตนายเศรษฐาน่าจะผ่าน แต่ไม่อยากยืนยัน เพราะเป็นแค่ 1 เสียงดังนั้นการฟังข้อมูลอภิปราย จะเป็นข้อมูลล่าสุดประกอบการตัดสินใจสุดท้าย
เมื่อถามถึงประเด็นที่นายชูวิทย์จะไปยื่นเอาผิดนายเศรษฐาต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลให้เกิดคดีความตามมาทีหลังนั้น นายดิเรกฤทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาลและ ป.ป.ช. เชื่อว่าไม่เกี่ยวกัน หลักฐานที่นายชูวิทย์แถลง ได้มีการยื่นต่อ สว. และกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรมที่ดินได้ตอบกลับมาแล้ว และข้อมูลเหล่านี้ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะกรรมาธิการคงจะอภิปรายในสภา
