POLITICS

‘สว.เทวฤทธิ์‘ เผย สว.พันธุ์ใหม่ ส่ง 3 รายชื่อ ชิง ประธาน – รองประธาน ชี้ ต้องมีการถ่วงดุลอำนาจ

วันนี้ (22 ก.ค. 67) นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ถึง การเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ว่า กลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ เห็นพ้องร่วมกันว่าจะส่ง 3 ท่านลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา โดยนางนันทนา นันทาวโรภาส มีบทบาทของความเป็นผู้หญิง มีงานวิชาการ มีการเคลื่อนไหวในการเมืองที่ผ่านมา ส่วน อ.แล ดิลกวิทยรัตน์ เป็นนักวิชาการ มีความเชี่ยวชาญในประเด็นด้านแรงงาน ซึ่งเราถือว่าเป็นฐานใหญ่ที่สุดของสังคมไทย

ด้านนางอังคณา มีความหลากหลายทางอัตลักษณ์ ที่สามารถนำเสนอให้สภาเป็นที่รวมความหลากหลาย และหวังว่าเพื่อนสมาชิกจะมองเห็นถึงจุดนี้ และช่วยกันสร้างสรรค์ให้สภาเปิดกว้าง เป็นที่ทำงานของทุกคน ทุกกลุ่ม โดยเราก็รู้ว่าที่มาที่ไปมีปัญหาของการได้มาซึ่ง สว. แต่จะขอใช้โอกาสตรงนี้ ใช้คนทำงานที่เป็นตัวแทนเพื่อเชื่อมโยงกับคนที่มีความหลากหลายได้

นายเทวฤทธิ์ ระบุว่า เรื่องคุณสมบัติ และจุดยืนเราก็จะนำเสนอในมุมมองของแต่ละท่าน และเชื่อว่าท่านมีดุลพินิจในการมองภาพรวม ภาพใหญ่ ไม่ใช่มองแค่ว่าใกล้ชิดกับเราหรือไม่ หรือต่อให้ไม่เลือกเรา แต่ข้อความที่เรานำเสนอไป อยากจะฝากไปถึงประธานวุฒิสภาคนใหม่ เพื่อให้เดินหน้า และทำงานไปได้ แม้จะเป็นสภาที่ทำตามมติของเสียงส่วนใหญ่ แต่ก็เคารพเสียงส่วนน้อยในสภา ต่อให้ไม่เลือกคน ก็ขอให้เลือกแนวทางที่เสนอไป และอาจไปผลักดัน เรียกร้องกับประธานวุฒิสภาที่ได้รับเลือก รวมถึงประชาชนได้เห็นวิสัยทัศน์ด้วย

นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า การเสนอรายชื่อ 3 แคนดิเดต จากกลุ่ม สว. สีน้ำเงินนั้น เป็นตัวแทนของอดีตข้าราชการเกษียณทั้ง 3 ท่าน ถ้าจะโหวตอย่างไร ตนเองก็เคารพ แต่อยากเชิญชวนเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ที่ให้มองดูถึงอนาคตข้างหน้าว่า ถ้าทุกท่านมีที่มาจากแนวทางเดียวกัน จะเลือกอีกหนึ่งที่มา เพื่อมาเป็นการทำงานเพื่อถ่วงดุลหรือไม่

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจับกลุ่มนั้นตนเองยืนยันว่า เราจะไม่เหมือน สว. ชุดที่แล้ว ที่อะไรก็จะเห็นคล้อยตามกันไปหมด ก็จะเห็นชัดเจนว่าการเห็นเหมือนกันหมด เป็นประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ ต้องคิดดูว่าอะไรที่เหมือนกันหมด เป็นประโยชน์กับเรามากกว่า หรือมีความหลากหลาย เพื่อเข้าไปตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ คนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน พร้อมยืนยันว่ามีความหลากหลายในสภาแล้ว เพื่อที่จะให้ถกเถียงปัญหาอย่างมีเหตุผล

นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า การคะแนนจากผู้ที่บอกว่าตนเองเป็นอิสระนั้น ตนเองก็คาดหวัง ถ้าหากว่าเป็นอิสระ ก็จะตัดสินใจตามดุลยพินิจของท่าน แต่หากเป็นกลุ่ม ก็ต้องผ่านการถกเถียงของแต่ละกลุ่มที่มาเสนอ ดังนั้น เรามาทำพื้นที่สภา ให้เป็นพื้นที่ของความหลากหลาย ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ลดทอนเสียงของคนส่วนใหญ่ แต่อย่างน้อยต้องมีพื้นที่ของส่วนส่วนน้อย และจะต้องมีการถกเถียงกันด้วยเหตุผล และมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ การขัดแย้ง และไม่ลงรอยกันในสภา ถือเป็นการฟ้องประชาชน

นายเทวฤทธิ์ ชี้ว่า กลุ่ม สว. พันธุ์ใหม่ ไม่ได้มีมติไปในทางเดียวกันทั้งหมด จะใช้หลักการ และเหตุผล ซึ่งจะยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้น และยืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขกติกาในการได้มาของ สว. ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชน และสภาผู้แทนราษฎร ในการปรับปรุงแก้ไข เพื่อการันตีว่ากระบวนการจะสะท้อนที่มาของความหลากหลายมากกว่านี้

นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า หากมีบุคคลที่มีความหลากหลายไปนั่งเป็นประธานวุฒิ หรือรองประธานวุฒินั้น จะทำให้เห็นถึงภาพความเป็นจริง เห็นภาพความหลากหลายอื่น ๆ อาจจะขัดบ้างแต่จะทำให้ดุลพินิจต่าง ๆ มีความรอบคอบมากขึ้น และได้เป็นโอกาสให้เสียงอื่น ๆ ที่อาจถูกกดทับไปในสังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น และฝากพิจารณา อย่าคิดว่าเป็นอุปสรรค ถือเป็นขบวนการในการฟื้นฟูศรัทธาสภา อยากให้สมาชิกทุกท่านมีดีเอ็นเอ ที่มาจากประชาชน

นายเทวฤทธิ์ ยังเชิญชวนประชาชนทุกคน ว่าอย่าพึ่งไว้วางใจพวกเรา ให้มาตรวจสอบพวกเราในการทำงาน เมื่อถึงจุดนั้นเราอาจเผชิญหน้ากับแรงจูงใจอื่น ๆ จนเฉยชาไป แต่กลไกหนึ่งที่ทำให้กระตุ้นการทำงานของเราได้คือให้ประชาชนเป็นโซ่ เป็นแซ่ โบยให้เราทำงานต่อไป และเราต้องการระบบที่สมบูรณ์ในการเลือกตัวแทนของประชาชน อยากให้ช่วยกันการส่งเสียงแก้ไขการได้มาของ สว. และพวกเราจะพยายามทำงานผลักดันเพื่อส่งเสริมกัน ให้การได้มาของ สว. ชุดต่อไปดีกว่าชุดนี้ หรือจะเปลี่ยนเป็นสภาเดี่ยวเลยก็ได้ แต่ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้เลย

Related Posts

Send this to a friend