นายกฯ มองคนไทยภูมิใจใน 8 ปีแห่งความมั่นคง เชื่อไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ฝากประเทศให้คนเก่งสานต่อ
วันนี้ (22 ก.ค. 65) เวลา 16:58 น. ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี (รมต.) เป็นรายบุคคล วันที่สุดท้าย โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ในหลากหลายประเด็น และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ชี้แจงว่าผู้อภิปรายจากพรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายครบถ้วนแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอภิปรายตอบชี้แจงได้ถึงเวลา 19:20 น. ก่อนที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านจะอภิปรายสรุปต่อไป พลเอก ประยุทธ์ จึงลุกขึ้นตอบชี้แจง
“เครื่องบินที่ทันสมัยแบบนี้ บินขึ้นไปอากาศไม่นาน ขึ้นไปยิงทีก็ตกแล้ว หรือขึ้นไปแสดงศักยภาพแป้บเดียวเท่านั้น … รบหรือไม่รบ ไม่รู้ล่ะ แต่ต้องมีไว้” พลเอก ประยุทธ์ เริ่มกล่าวชี้แจงในประเด็นการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ และยืนยันว่าจะต้องจัดซื้อทุกเหล่าทัพ เพราะเมื่อถึงเวลาใช้จะได้ใช้ในยุทธการแบบผสม
สำหรับประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้น พลเอก ประยุทธ์ ตอบว่า ในเมื่อเขาทำไม่ได้ตามสัญญา เราก็รับเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ไม่ได้ ก็มีการหารือร่วมกัน และยืนยันว่ามีความต้องการในตรงนี้อยู่ เรือมาเมื่อไรก็ต้องมีที่จอด เมื่อเรามีขีดความสามารถในการทำ เราก็หยุดไม่ได้ อะไรที่ทำได้ก็ทำก่อนเถอะ
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงประเด็นการอภิปราย “ตั๋วช้าง” ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า การถวายความปลอดภัยในการเสด็จพระราชดำเนินทางอากาศ ต้องเป็นไปด้วยความปลอดภัยสูงสุด ยืนยันมีการคัดเลือกนักบินอย่างดี ให้อยู่ในมาตรฐานที่สูง สูง สูงที่สุด ท่านก็รู้ ต้องระมัดระวังสูงสุด
พลเอก ประยุทธ์ ยังชี้แจงเรื่องพลังงานว่า มีการทำงานในหลายระดับด้วยกัน ทั้งหมดทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ตัดสินใจร่วมกัน นายกฯ สั่งเองทั้งหมดไม่ได้ เรื่องใหญ่ขนาดนั้น ตัดสินใจร่วมกัน ทุกคนยืนยันว่าจะรับผิดชอบทำให้ดีที่สุด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะชี้แจงเพิ่มเติมเพราะเดี๋ยวจะสับสนอลหม่านกันไป
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวต่อไปถึงประเด็นการกระทำอัตวินิบาตกรรมของประชาชนในช่วงโควิด-19 ว่า ผมคิดว่ามีหลายสาเหตุ ผมเสียใจกับทุกครอบครัว แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดที่มีสาเหตุเดียวกัน มีทั้งโควิด ติดโรคอะไร มีโรคประจำตัวหรือเปล่า ตายมากตายน้อยมันหมูเกินไปผมว่า มันติติงได้หมด
“ท่านก็ว่ารถยนต์ผมไม่ได้เรื่อง คนขับก็ไม่ดี ก็รู้อยู่แล้วไม่มีทางเสริมกันอยู่แล้วเพราะท่านเป็นฝ่ายค้าน แต่การเดินทางของประเทศไทยตลอด 8 ปีนั้น สิ่งที่ท่านว่ามา อันไหนดีผมก็รับไป อันไหนไม่ดีผมก็สวดมนต์ไป ผมไม่เป็นศัตรูของท่าน แต่ 8 ปีถือเป็นความมั่นคงที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ เราต้องรักษาความมั่นคงให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น” พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงภาพรวมวิสัยทัศน์รัฐบาล
“ผมภูมิใจว่าผมทำอะไรสำเร็จ การทำงานต้องรู้ตัวเสมอ ฝากให้ทุกท่านที่เก่ง ๆ มีโอกาส ได้สานต่อไปแล้วกัน ผมเชื่อมั่นไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้ ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ประเทศไทยก็ต้องอยู่ ยังเป็นดินแดนที่เจริญ สงบ และสันติสุข บนแผนที่โลกตลอดไป” พลเอก ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย
