นายกฯ กัมพูชา สั่งปิดด่านช่องสายตะกู-และจุ๊บโกกี ย้ำไม่เจรจา

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งปิดด่านช่องสายตะกู-และจุ๊บโกกี หลังกองทัพภาคที่ 2 ประกาศปิด ย้ำไม่เจรจา หากต้องการเปิด ให้ไทยเริ่มเปิดก่อนฝ่ายเดียว กัมพูชาจะเปิดตามหลังจากนั้น 5 ชม.
วันนี้ (22 มิ.ย. 68) พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่า หลังจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ประกาศปิดจุดผ่อนปรนการค้า ด่านช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ รวมถึงด่านจุ๊บโกกี นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงมีคำสั่งปิดทั้ง 2 ด่านในฝั่งกัมพูชาด้วย โดยมีคำสั่งถึงผู้ว่าราชการ จ.อุดรมีชัย แล้ว ถือเป็นการปิดเป็นการถาวร พร้อมระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.68 ไทยเป็นฝ่ายปิดด่านแต่ฝ่ายเดียว ทางกัมพูชาไม่เคยคิดที่จะสร้างความลำบากให้กับพลเมืองของทั้งสองประเทศที่อาศัยอยู่หรือเดินทางผ่านด่านชายแดน แต่กองทัพไทยยังคงใช้วิธีการนี้เพื่อโยนความผิดไปที่กัมพูชา
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องแปลกที่ผู้นำทางการเมืองของไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรีของไทย มักจะเรียกร้องให้มีการเจรจาเปิดพรมแดนเพื่อกลับสู่ภาวะปกติ แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพไทยก็ยังคงปิดประตู หรือปรับเวลาปิดประตูตามที่ต้องการฝ่ายเดียว
“ผมไม่ทราบว่าเป็นวิธีการหรือกลยุทธ์ในการทำงานระหว่างรัฐบาลไทยกับกองทัพไทยหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีข้อตกลงและหลักการภายในที่ชัดเจน ฝ่ายหนึ่งขอให้มีการเจรจาทวิภาคีเพื่อเปิดประตูสู่ภาวะปกติ ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงปิดประตูฝ่ายเดียว”
พล.อ.ฮุน มาเนต ระบุว่า สำหรับกัมพูชา หากนายกรัฐมนตรีสั่งการอะไร สถาบันระดับชาติและระดับรองทั้งหมด รวมถึงกองทัพ จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้นในทันที ในส่วนของการเปิดด่านชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยนั้น ตนขอย้ำว่ากัมพูชายังคงยืนหยัดเช่นเดิมว่าไม่จำเป็นต้องมีการเจรจาทวิภาคีในการเปิดด่านชายแดนระหว่างสองประเทศ
หากฝ่ายไทยต้องการเปิดด่านชายแดนให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างแท้จริง ก็สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว กองทัพไทยซึ่งเป็นฝ่ายแรกที่ปิดด่านฝ่ายเดียว จะต้องเปิดด่านฝ่ายเดียวเหมือนก่อนวันที่ 7 มิถุนายน 2568 กัมพูชาจะเปิดด่านตามมาในอีก 5 ชั่วโมงข้างหน้า ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายมาก โดยไม่ต้องเจรจาหรือเสียเวลา เพียงแค่ฝ่ายไทยต้องการจุดยืนเท่านั้น