‘ชัยธวัช’ ชี้ อีสานลบคำกล่าวหา “โง่ จน เจ็บ”
หันใช้ประชาธิปไตยเรียกร้องสิทธิ กดดัน เรียกร้อง และแลกเปลี่ยน ห่วงปัญหากำลังการผลิต-หนี้พุ่ง
วันนี้ (22 มิ.ย.67) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “ก้าวไกล Policy Fest อุดรจ้วด ๆ” ที่ UD Town อ.เมือง จ.อุดรธานีว่า ขณะนี้เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น่าเป็นห่วง เพราะทุกภาคมี GDP เพิ่มขึ้นแต่ภาคอีสานลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจผูกติดกับภาคเกษตรกรรมกว่า 60% ของครัวเรือนเป็นเกษตรกร หากภาคอุตสาหกรรมเติบโต จังหวัดที่ได้ประโยชน์ก็จะมีแค่ นครราชสีมา ขอนแก่น ส่วนด้านท่องเที่ยวมีแค่นครพนม อุดรธานี หนองคาย
พื้นที่การเกษตรในภาคอีสานรวมกันประมาณ 5-10% ในพื้นที่ชลประทาน เมื่อธรรมชาติผันผวน รายได้ของชาวอีสานก็จะผันผวนตามไปด้วย นอกจากนี้ความสามารถในการผลิตของภาคเกษตรกรรมของไทยมีแนวโน้มต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม กัมพูชา เมียนมาพุ่งสูงขึ้น ไม่ได้หมายความว่าต่างประเทศมีการปลูกและผลิตผลมากกว่าประเทศไทย แต่หมายถึงจำนวนพื้นที่เท่ากัน แต่ประเทศไทยอาจจะต้องใช้ค่าแรง ค่าปุ๋ยมากกว่า จึงทำให้มีข้อแตกต่าง ความน่าเป็นห่วงของสถานการณ์ครัวเรือนในภาคอีสาน 80% เป็นหนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงที่สุด จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2556 พบหนี้ต่อหัวมากกว่า 260,000 บาท
นายชัยธวัช กล่าวถึงความเกี่ยวข้องของตนเองกับคนอีสาน ยอมรับว่าตนเป็นคนภาคใต้ จังหวัดสงขลา จึงไม่ได้มีความรู้จักมักคุ้นในภาคอีสานเท่าคนในพื้นที่ จากความเข้าใจ ครั้งแรกที่พบกับคนภาคอีสานว่าจะมีความยากจน แต่ความจริงแล้วรู้สึกประทับใจที่คนอีสานรับรู้โลกกว้างมากกว่าภาคอื่น มีการผลักดันพยายามให้ตนเองไปอยู่ในจังหวัด หรือต่างประเทศ ตนเองรู้จักคนอีสานแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนครั้งหนึ่ง จากการชุมนุมกับเกษตรกรชาวอีสานที่ทำเนียบรัฐบาล จึงรู้ว่าภาคอีสานมีปัญหาที่เชื่อมโยงกับการเมือง มีการเชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาล และกฎหมาย
ที่ผ่านมาภาคอีสานถูกกล่าวหาว่า “โง่ จน เจ็บ” ไม่มีการศึกษา ไม่มีความรู้ด้านการเมือง แต่ตอนนี้กลับเห็นภาพพี่น้องชาวภาคอีสานได้ใช้ประโยชน์จากระบอบประชาธิปไตย โดยใช้การเลือกตั้งในการต่อรอง กดดัน เรียกร้อง และแลกเปลี่ยน
“ในยุคที่การเมืองหวังอะไรไม่ได้ ได้แค่ห้าร้อย หนึ่งพันก็ต้องรับไว้แค่นี้ ผมเชื่อว่าสิ่งที่พี่น้องประชาชนเรียกร้องได้ยิ่งใหญ่มากกว่านั้นคือ นโยบายที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและระยะยาว” นายชัยธวัช กล่าว