POLITICS

เปิดใจ น้องชาย ‘ผู้ว่าหมูป่า’ ชื่นชมพี่ชายต่อสู้มะเร็งมากว่า 5 ปียังปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯ เต็มที่

เปิดใจ น้องชาย ‘ผู้ว่าหมูป่า’ ชื่นชมพี่ชายต่อสู้มะเร็งมากว่า 5 ปียังปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯ อย่างเต็มที่ เผย 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิตตั้งใจออกจาก รพ.ร่วมงานแต่งงานบุตรสาว ทำหน้าที่พ่อเป็นครั้งสุดท้าย

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 น.ที่วัดพระศรีมหาธาตุ (บางเขน) นพ.ยุทธศักดิ์ โอสถธนากร น้องชายนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เปิดใจถึงการจากไปของพี่ชาย ‘ผู้ว่าหมูป่า’ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยขอบคุณทุกกำลังใจของประชาชน และขอบคุณทีมแพทย์ทุกโรงพยาบาลที่ช่วยดูแลพี่ชาย นับตั้งแต่ที่รู้ว่าป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับ ในช่วงปลายปี 2561 ขณะปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หลังย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หลังเหตุการณ์ถ้ำหลวงเกือบ 1 ปี

“ปกติท่านแข็งแรงมาตลอด หลังเหตุการณ์ถ้ำหลวง ในปี 2561 ขณะอยู่ที่ลำปาง ท่านปวดท้องอย่างมาก แพทย์ส่องกล้องพบก้อนมะเร็งก้อนใหญ่ อุดตันลำไส้ แพทย์ตัดสินใจผ่าตัดต่อลำไส้ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี แต่หลังจากผ่าตัด พบกระจายไปที่ตับ ไม่สามารถผ่าตัดที่ลำปางได้ จึงส่งไปที่ รพ.มหาราชฯ จ.เชียงใหม่ แพทย์ผ่าตัดก้อนมะเร็งที่ตับหมดไป ทำให้ที่ตับก็ดีขึ้น ซึ่งเชื้ออาจกระจายไปได้ จึงให้เคมีบำบัด และติดตามอาการเป็นระยะ ซึ่งช่วงตัดต่อลำไส้ ทำให้ลำไส้สั้นลง จึงมีปัญหาเรื่องทานอาหารและขับถ่ายอยู่ตลอด หลายคนอาจไม่รู้ แต่ท่านก็ผ่านมาได้ แพทย์ได้ให้เคมีบำบัดสูตรที่ดีที่สุด ทำให้อาการดีขึ้น จนย้ายมา จ.ปทุมธานี ท่านได้ย้ายมารักษาตัวที่ รพ.จุฬาภรณ์ ต้องขอบคุณแพทย์ที่ดูแลรักษาอย่างดี แต่ต่อมน้ำเหลืองโตในช่องท้อง จึงไปฉายแสงอีก และมารักษาที่ รพ.ศิริราช แพทย์ช่วยดูแลทั้งเคมีบำบัดและฉายแสง โรคก็สงบมาถึงปลายปี 2565”

นพ.ยุทธศักดิ์ เปิดเผยว่า ระหว่างการต่อสู้กับโรคมะเร็งมากว่า 5 ปี พี่ชายยังคงปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีอย่างดีมาตลอด ในช่วงปี 2565 ที่มีข่าวว่าถูกทาบทามให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพ พี่ชายก็มีความตั้งใจที่สามารถทำได้ แต่เนื่องจากเป็นห่วงว่าหากอาการป่วยจะมากขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจไม่ส่งผลดีต่อการทำงาน จึงตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

“แต่เมื่อ พ.ค.ที่ผ่านมาท่านไปติดตามโรค เจอมะเร็งก้อนใหญ่ ก็มารักษาที่ศิริาช ทีมแพทย์ระดมความคิดแล้วว่าได้ทำการรักษาไปแล้ว ทั้งการผ่าตัด 2 รอบ ฉายแสง 2 รอบ เคมีบำบัดก็ 3 รอบ ไม่มีวิธีอื่นรักษาแล้ว ก็ประคับประคองอาการ ซึ่งท่านก็ประสงค์เช่นนั้น เพราะท่านสู้กับร่างกายนี้มาได้ 5 ปีแล้ว ทั้งๆ ที่โดยปกติแล้ว คนป่วยมะเร็งในระยะที่ 4 จะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ตั้งแต่ที่มีอาการครั้งแรก จนวันนี้ท่านอยู่มาได้ 5 ปี ถือว่าอยู่ได้นาน ครั้งนี้แพทย์ลงความเห็นว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ ท่านจึงจากไปอย่างสงบ

นพ.ยุทธศักดิ์ เปิดเผยความประทับใจ ที่นายณรงค์ศักดิ์ ได้ทำหน้าที่พ่อเพื่อลูกครั้งสุดท้าย เพราะระหว่างรักษาตัวที่ รพ.ศิริราช นายณรงค์ศักดิ์ ขอให้เลื่อนงานแต่งงานของบุตรสาวคนโต จากปลายเดือนกรกฏาคม มาเป็นวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา

“ก่อนท่านเสียชีวิต ลูกสาวจะมีฤกษ์แต่งงานปลายเดือน ก.ค.แพทย์กลัวจะไม่ทันที่จะได้ร่วมงานบุตรสาว ท่านก็อยากให้เลื่อนมาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเช้าวันงาน แพทย์ลงความเห็นว่าสามารถออกมาร่วมงานได้ โดยมีรถกู้ชีพมาส่งที่งานแต่งงาน ก็น่าทึ่งมากครับ เพราะที่งานท่านเดินเองได้ ได้ร่วมงานแต่งงานบุตรสาวอย่างมีความสุข เมื่อเสร็จงานก็กลับ รพ.ด้วยความรวดเร็ว

นพ.ยุทธศักดิ์ เชื่อว่าพี่ชายมีความสุขที่ได้ทำหน้าที่พ่อครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากกลับไป รพ.ศิริราช อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ เหมือนรู้ว่าถึงวันของท่านแล้ว การได้เห็นลูกสาวแต่งงาน และจากไปอย่างสงบ เหมือนนิยายที่มีการเลื่อนวันแต่งงานลูกสาวให้ทันกับชีวิตของพ่อ

“ในนามครอบครัว ต้องขอบคุณคนไทยทุกท่านที่ให้กำลังใจ ท่านเป็นฮีโร่ของคนไทย จากเหตุการณ์ถ้ำหลวง ต้องยกย่องในการบริหารจัดการของท่าน ซึ่งน่าจะแตกต่างจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วไป เพราะท่านจบทางด้านวิศวกรด้วย แม้การตัดสินใจนำเด็กจากถ้ำด้วยวิธีฉีดยาสลบ จะเป็นครั้งแรกของโลก แต่มาจากการตัดสินใจร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี”

นพ.ยุทธศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า ตลอดเวลาที่ต่อสู้กับโรคมะเร็ง นายณรงค์ศักดิ์ ยังคงทำงานอย่างหนัก เพราะรักประชาชน ไปไหนจะทำงานตลอด แม้นอนใน โรงพยาบาลก็เอางานไปทำ หวังว่ากำลังใจในการสู้กับโรคภัยไข้เจ็บของท่าน จะเป็นกำลังใจให้ทุกคน

Related Posts

Send this to a friend