POLITICS

‘ธนาธร’ ปราศรัยใหญ่ก้าวไกล เชื่อมั่น ก้าวไกล 66 พร้อมกว่าอนาคตใหม่ 62

‘ธนาธร’ ปราศรัยใหญ่ก้าวไกล เชื่อมั่น ก้าวไกล 66 พร้อมกว่าอนาคตใหม่ 62 มอง ผลงาน 4 ปีในสภาโดดเด่นมาก ขอ ปชช. กาก้าวไกล ให้ได้บริหารประเทศ หมดเวลา เจียมเนื้อเจียมตัว! ต้องฝันให้ไกล

วันนี้ (22 เม.ย. 66) ที่สามย่านมิตรทาวน์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ในชื่อ “ทัพใหญ่ก้าวไกล ปราศรัยโค้งสุดท้าย” ภายใต้คอนเซ็ปท์ “เปลี่ยนประเทศไทยอย่างตรงไปตรงมา”

นายธนาธร กล่าวว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงเวลาตัดสินอนาคตของประเทศไทยแล้ว ต้องการให้หน้าตาเป็นอย่างไร ลูกหลานจะอยู่แบบไหน ก็อยู่ที่เรา และการตั้งคำถามว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงใช้คำขวัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” เหตุผลมาจากการเดินทางไปทั่วประเทศ จากความเชื่อเดิมๆ ว่าการเลือกตั้ง เลือกใครไปก็ได้เหมือนเดิม เราต้องทำตามความฝันว่าอยากให้ประเทศไปที่ไหน ในพรรคก้าวไกลมองประเทศไทยในอนาคตไว้ดังนี้

1.ประเทศไทยที่ต้องกลับมาเดินในเส้นทางประชาธิปไตย ให้ลูกหลานไม่เจอกับการทำรัฐประหารอีก

2.ไม่รวมศูนย์อำนาจเอาไว้แค่ส่วนกลาง แต่ต้องกระจายไปสู่ท้องถิ่น ให้พัฒนาในพื้นที่ของตนเอง

3.ประเทศไทยต้องไม่มีการทุจริตคอรัปชั่น ไม่ใช้เส้นสายในระบบราชการ

4.สิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องได้รับการรับประกัน และได้รับการคุ้มครอง

5.มีการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรม คนที่ได้รับผลผลผลิตเยอะ ต้องจ่ายภาษีเยอะ ซึ่งจะนำงบส่วนนี้มาจัดสรรใหม่ สร้างสวัสดิการให้ประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย และให้มีความมั่นคงในชีวิต

6.ระบบเศรษฐกิจที่มีความเสรี ไม่มีการผูกขาดทางการค้า ผู้ประกอบการรายย่อยมีโอกาสในการค้าขาย

7.มีการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี ทุกคนเข้าถึงอากาศที่ดี บริการสาธารณะที่ดี

8.รัฐให้การบริการขนส่งคมนาคม เดินทางได้ โดนไม่ต้องใช้รถส่วนตัว

9.โรงเรียนที่ดี โรงพยาบาลที่ดี มีสวนสาธารณะใกล้บ้าน ให้มีพื้นที่ในการวิ่งเล่น เรียนรู้ เติบโต เหมาะสมตามวัย

“ถ้าทุกคนมีความฝันในประเทศนี้เช่นเดียวกัน ต้องช่วยกันกาพรรคก้าวไกล จ้างพวกเราเข้าไปทำงานในสภา เพื่อทำให้ประเทศดีขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้โดนคำปรามาสจากหลายส่วน ว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน แต่ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เรามีผลงานมากมาย เราพิสูจน์แล้วว่าพรรคเราทำงานในสภาได้โดดเด่น และเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น”

นายธนาธร กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 มองว่าพรรคยังทำได้ขนาดนี้ และผ่านมา 4 ปี เราเก็บประสบการณ์ มีเครือข่ายมากขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น ไม่ว่ามองมิติไหน ก้าวไกล 66 ก็สมบูรณ์และพร้อมกว่า

“ที่ผ่านมาเกิดการตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลนั้นทำเร็วไปหรือไม่ ช้ากว่านี้ได้ไหม แต่ความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ ทุกประเทศก็วิ่งแข่งกัน รอบประเทศก็หนีออกจากไทยไปทุกที ซึ่งสิ่งที่เราต้องกลัวไม่ใช่ก้าวไกลที่เร็วเกินไป แต่ต้องถามกลับไปว่าประเทศไทยช้าเกินไปหรือไม่ เท่าทันโลกหรือไม่ โลกไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยี AI กันแล้ว แต่ประเทศเรามัวแต่ไปทำ IO ที่นึกว่าเป็น AI”

นายธนาธร กล่าวต่อว่า เรื่องที่มองว่าพรรคเราสุดโต่งนั้น เป็นแค่มุมมอง แต่สิ่งที่พรรคกำลังทำ คือไปดูการบริหารจัดการของประเทศที่เจริญแล้ว ว่ามีการแก้ไขปัญหาอย่างไร กระจายอำนาจอย่างไร จัดการกับทหารอย่างไร ทำไมทุกเมืองถึงเจริญเท่าเทียมกัน

“เขาบอกว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลจะทำ ทำไม่ได้หรอก ไม่มีเงินพอสำหรับรัฐสวัสดิการ ซึ่งโจทย์ใหญ่ไม่ได้เริ่มต้นจากทำได้หรือไม่ แต่คือการทำหรือไม่ทำ? มีเจตจำนงมากพอที่จะทำหรือไม่? ถ้าไม่กล้าแก้ปัญหาที่ต้นตอก็ทำไม่ได้”

นายธนาธร ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่โดดเดี่ยว ดูได้จากคนที่มาในวันนี้ การจะชนะหรือไม่ชนะ ก็อยู่ที่เมล็ดพันธุ์ทางความคิดที่เราวางไว้ เพื่อมาต่อสู้กับความคิดที่ล้าหลัง ที่กักขังประเทศไทยไว้ แนวคิดที่ก้าวหน้า พาประเทศไปสู่อนาคตที่สว่าง จึงเป็นเรื่องที่ไม่เร็วไป เมื่อเวลาผ่านไปประชาชนจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากโดดเดี่ยวกับนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ แต่เป็นเพื่อนกับประชาชนก็เอา

“อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้ง ขอพลังประชาชนผลักดันพรรคก้าวไกลให้เป็นรัฐบาล ในกระดานหลายพรรคเคยเป็นรัฐบาลมาแล้ว และประเทศมาได้แค่เท่านี้ แต่มีแค่พรรคเดียวที่ไม่เคยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศคือพรรก้าวไกล จึงขอโอกาสพี่น้องประชาชนให้โอกาสเรา ขอเราเป็นรัฐบาลสักครั้ง จะสร้างประเทศที่ไปไกลกว่สนี้ให้ทุกคนได้เห็น”

นายธนาธร กล่าวต่อว่า ถ้าเราทำไม่ได้ครั้งนี้ ครั้งหน้าเลือกพรรคอื่นได้ ซึ่งคือความสวยงามของประชาธิปไตย ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายบริหารแล้วทำไม่ได้ ในครั้งต่อไปผมเองก็จะไม่เสนอหน้าเป็นผู้ช่วยหาเสียงแล้ว ไม่ขอทำต่อเหมือนบางพรรคที่พูดกัน

“ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องทะเยอทะยาน ปักธงให้ไกล ฝันถึงประเทศที่ดีกว่านี้ ฝันถึงประเทศที่มีประชาธิปไตย มีความเท่าเทียม มีเทคโนโลยี อย่ากระมิดกระเมี้ยนเจียมเนื้อเจียมตัว ต้องกล้าคิดกล้าฝันไปกับพวกเรา”

Related Posts

Send this to a friend