POLITICS

‘พรรณิการ์‘ เผย ศึกซักฟอกครั้งนี้ ‘พรรคประชาชน‘ เตรียมการอย่างหนัก

ยืนยัน อัดอภิปรายกว่า 20 เรื่อง ไม่ใช่การเสียรู้ ชี้ ‘รัฐบาล’ อย่าตีตนไปก่อนไข้ ปม อภิปรายชื่อ ’ทักษิณ‘ มอง ‘ดีลแลกประเทศ’ ติดตลาดเพราะสอดคล้องกับข้อเท็จจริง

วันนี้ (22 มี.ค. 68) ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์สัมภาษณ์ถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ของพรรคประชาชน ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการอภิปรายมุ่งเน้นไปที่ตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้อยากบอกว่าอย่าตีตนไปก่อนไข้ ของจริงอาจจะหนักกว่าเดิมก็ได้ ตนเองเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องที่เด็ดจริง ๆ จะเกี่ยวข้องกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการวิเคราะห์จากการให้สัมภาษณ์ของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน และ น.ส.สิริกัญญา ตันสกุล ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าหลายเรื่องในการอภิปรายนายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ตอบด้วยตนเอง เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี

พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า จากการที่ตนเองทำงานอยู่ในอาคารเดียวกัน ก็มีส่วนได้ติดตามการซักซ้อมของพรรคประชาชน ทราบว่ามีการเตรียมการกันอย่างหนักไม่แพ้กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้ว โดยเนื้อหาในวันแรกจะเป็นการอภิปรายด้านนโยบาย ส่วนวันที่สองจะเป็นเรื่องทีเด็ดทีขาดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งการวางตัวของผู้อภิปรายนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการจัดลำดับ ซึ่งอาจจะแล้วเสร็จก่อนการอภิปรายไม่นานมาก คาดการณ์ว่าอาจไม่ให้ตัวเด่นไปอยู่ในช่วงเวลาดึกเหมือนกับที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้

เมื่อถามว่า วาทะหลักในการอภิปรายที่มีโปสเตอร์นั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ดีลแลกประเทศนั้น มองว่าวาทกรรมเหล่านั้นจะไม่ติดตลาด หากไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ประชาชนรู้สึก ดีลแลกประเทศ ที่ตนเองเข้าใจก็คือการที่นายทักษิณได้กลับไทย โดยไม่ติดคุกแม้เแต่วันเดียว ถึงขั้นที่นายกรัฐมนตรีก็ยอมรับ

สำหรับเรื่อง ระยะเวลาการอภิปรายที่ยาวไปจนถึงเกือบรุ่งเช้าของอีกวันนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ต้นตอเกิดจากประธานวิปฝ่ายค้านที่ยืนยันว่าต้องเจรจาภายในกรอบเวลา 2 วัน พรรคประชาชนจึงต้องนำเรื่องการอภิปรายกว่า 20 เรื่อง อัดไว้ในระยะเวลาเพียงเท่านี้ ไม่ใช้การเสียรู้เรื่องเวลา

“หากรัฐบาลบริสุทธิ์ใจ เหตุใดจึงกำหนด 2 วัน ไม่ให้เวลาอย่างเต็มที่“ น.ส.พรรณิการ์ ตั้งคำถามกลับ

นอกจากนี้ การตั้งองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับ มองว่ารัฐบาลมีความกังวลในการอธิบายครั้งนี้ ถ้าอยากพิทักษ์นายกรัฐมนตรี ก็พูดไปเลย ไม่ต้องเหนียม เพราะปกติแล้วหน้าที่ดังกล่าวเป็นของประธานสภาฯ ที่ต้องควบคุม ถ้าอยากพิทักษ์ข้อบังคับก็คงต้องไล่ประธานสภาฯ ลงจากบัลลังก์

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat