‘วิทยา’ ชี้ข่าว ‘ประยุทธ์’ นั่งปาร์ตี้ลิสเบอร์ 1 รวมไทยสร้างชาติ เป็นข่าวปล่อย
‘วิทยา’ ชี้ข่าว ‘ประยุทธ์’ นั่งปาร์ตี้ลิสเบอร์ 1 รวมไทยสร้างชาติ เป็นข่าวปล่อย ยันยังไม่เคาะชื่อ ขณะไม่กังวลโพลอีสานมาอันดับ 3
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงสมัครในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ว่า เป็นเพียงข่าวปล่อย เพราะในพรรคและกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ และจะต้องพูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร
แต่ที่แน่นอน คือ พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 เพราะได้ประกาศไปนานแล้ว ส่วนจะเสนอกี่ชื่อ เป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันในกรรมการบริหารพรรคเช่นกัน
ทั้งนี้ ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ พรรคจะจัดประชุมใหญ่ และเชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศของพรรคมาประชุม ในวันนั้นจะชัดเจน
สำหรับผู้บริหารและกรรมการยุทธศาสตร์จะกำหนดอีกครั้งว่า ชื่อเดียว หรือ 2 ชื่อ หรือ 3 ชื่อ ตามกฎหมาย แต่จะกี่ชื่อก็ตาม อันดับต้นก็คือพลเอกประยุทธ์ เพราะถือว่ารวมไทยสร้างชาติคือพรรคลุงตู่ ลุงตู่อยู่พรรคไหน ก็รวมไทยสร้างชาติ แม้จะอยู่ได้ 2 ปี อย่าคิดว่า 2 ปี เวลาน้อย แต่ก็มีเวลาพอที่จะทำงาน
นอกจากนี้ นายวิทยา กล่าวว่า พรรคไม่รู้สึกกังวลกรณีที่โพลระบุว่าพื้นที่ภาคอีสาน พลเอกประยุทธ์มีคะแนนอยู่ในลำดับที่ 3 โดยที่นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีคะแนนนิยมอันดับ 1 ซึ่งต้องยอมรับว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่งทำงานมา 5-6 เดือน อยู่หลังพรรคการเมืองอื่น ที่ทำพื้นที่มาก่อนหน้านี้นานแล้ว จึงถือว่าคะแนนลำดับ 3 ในพื้นที่อีสานก็น่าพอใจแล้ว
เพราะก่อนหน้านี้ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่อยู่ 1 ใน 10 ด้วยซ้ำ โดยคนเสื้อแดงในพื้นที่อีสานไม่เอาพลเอกประยุทธ์เลย แต่ตอนนี้มีปีกหนึ่งที่แยกมาอยู่กับพลเอกประยุทธ์แล้ว เพราะรู้สึกว่ามีความมั่นคงกว่าและมีผลงานเยอะกว่า ดังนั้น คิดว่าขอเวลาอีกระยะหนึ่ง เชื่อว่าจะสามารถเจาะพื้นที่อีสานได้ และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่แลนสไลด์อย่างแน่นอน
สำหรับนโยบายของพรรคที่ออกมา ทำให้ประชาชน พอใจ เพราะจับต้องได้และไม่โดนหักหัวคิว โดยเฉพาะนโยบาย “บัตรลุงตู่” ที่เคยได้รับ 200-300 บาท พรรครวมไทยสร้างชาติจะเพิ่มเป็น 1,000 บาท และมั่นใจว่า มีงบประมาณพอเพียง เพราะคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี จะทราบว่ามีเงินตรงไหน และนโยบายไหนทำได้ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่รัฐสวัสดิการที่ไม่ทิ้งคนจนไว้ข้างหลัง และยังมีนโยบายแก้หนี้นอกระบบให้คนอีสานได้ โดยสามารถนำบัตรลุงตู่ไปขอกู้ฉุกเฉินได้ด้วย ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ยังติดกับดักอยู่ที่การนำนายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน
ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แม้จะเป็นนักธุรกิจ แต่ตนเห็นว่าความเฉียบคมทางการเมืองยังน้อย และต้องระมัดระวังว่าเวลาเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง ทุกคนต้องโดนตรวจสอบ
