‘แน่งน้อย’ เข้าสภาฯ หลังได้ตำแหน่ง ที่ปรึกษาอนุ กมธ. เชื่อ ไม่เกี่ยวกับที่เคยเป็นประธาน ศชอ.

‘แน่งน้อย’ เข้าสภาฯ หลังได้ตำแหน่ง ที่ปรึกษาอนุ กมธ. เชื่อ ไม่เกี่ยวกับที่เคยเป็นประธาน ศชอ. เน้น ช่วยเหลือคน – นักกีฬา ยัน ไม่ใช่เรื่องการเมือง ย้ำ ไม่โกรธทัวร์ลง เพราะเรื่องผ่านมานาน ทำดีสุดแล้วในฐานะคนไทย

วันนี้ (22 ม.ค. 68) ที่อาคารรัฐสภา นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร อดีตประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิดบนโลกออนไลน์ (ศชอ.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ได้เดินทางมาเข้าร่วมประชุม

นางแน่งน้อย กล่าวว่า เหตุผลที่คณะกรรมาธิการได้แต่งตั้งตนเองเป็นที่ปรึกษาฯ น่าจะเป็นเพราะเห็นว่าตนเองทำงานจริงจังกับทุกเรื่อง ทั้งการช่วยเหลือคน โดยเฉพาะคนพิการ รวมถึงเรื่องกีฬา รวมถึงตนเองมีเครือข่ายสายสัมพันธ์ที่กว้างขวางกับคนทั่วประเทศ สามารถใช้เครือข่ายเพื่อประสานความช่วยเหลือได้ทุกพื้นที่

นางแน่งน้อย กล่าวอีกว่า ตอนนี้เพิ่งได้รับตำแหน่งมา 2 วัน จึงยังไม่รู้ขอบเขตที่ชัดเจนของงานที่จะต้องทำ แต่เป็นที่ปรึกษา ซึ่งมีระยะเวลาทำงาน 1 ปี รู้เพียงว่ารับผิดชอบส่วนกลางกับภาคเหนือ ยอมรับว่าต้องเรียนรู้อีกมาก เพราะยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ส่วนใหญ่เน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือมากว่า สำหรับตนเองเรื่องการเมืองถือเป็นเรื่องรองไปแล้ว หลังจากที่ถูกโจมตีมามาก

ส่วนการทำงานกับอนุกรรมาธิการที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับนักการเมืองนั้น นางแน่งน้อย ระบุว่า ตอนแรกก็คิดเหมือนกัน แต่หากเป็น สส. ตนเองจะคิดว่าเป็นการเมือง แต่เมื่อเป็น สว. คิดว่าไม่น่าใช่ แต่เกี่ยวกับการพัฒนาประเทศมากกว่า

สำหรับเรื่องที่คาดหวังจะผลักดันในอนุกรรมาธิการ ตนเองเป็นอุปนายกสมาคมกีฬาคนที่ 1 ของจังหวัดพิษณุโลก ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง เรื่องงบประมาณในการช่วยเหลือนักกีฬา ที่ถูกตัดไปประมาณ 50% จึงอยากนำเสนอหลาย ๆ เรื่องที่ได้ประสบพบเห็นมา อย่างไรก็ตาม เรื่องสวัสดิการของคนพิการดีขึ้นมากแล้วจากสมัยที่ตนเองเป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ที่ต้องลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิด-19

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงบทบาทของอดีตประธาน ศชอ. ที่ติดตัวมา นางแน่งน้อย ยอมรับ และไม่ได้ว่าอะไรที่ถูกนำไปโจมตีแบบนั้น แม้เรื่องจะจบไปนานแล้ว

“ไม่โกรธนะคะ ไม่โกรธเลย เพราะถือว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และคิดว่า ณ วินาทีนั้น เราทำดีที่สุดแล้วในฐานะพลเมืองไทยคนหนี่ง” นางแน่งน้อยกล่าว

นางแน่งน้อย กล่าวว่า เรื่องที่ตนเองมาเป็นที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่เคยเป็นประธาน ศชอ. เพราะอย่างที่บอกว่าเน้นความช่วยเหลือเรื่องกีฬาและคนพิการมากกว่า