‘98 สว.’ ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป เผย ย้ำ ไม่มีเจตนาล้มรัฐบาล
‘98 สว.’ ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป เผย ต้องการชี้ให้เห็นปัญหาการทำงานที่ผ่านมา ย้ำ ไม่มีเจตนาล้มรัฐบาล ด้าน ‘พรเพชร’ เตรียมประสานงานรัฐบาลวันนี้ ปัดเป็นผลงานโบว์แดงทิ้งทวน สว.
วันนี้ (22 ม.ค. 67) นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภาที่ร่วมลงชื่อสนับสนุน เข้ายื่นหนังสือแก่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 โดยมีรายชื่อทั้งหมด 98 รายชื่อ
นายเสรี กล่าวว่า มีประเด็นที่ยื่น 7 ประเด็นใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อการบริหารราชการแผ่นดินและประชาชน ตลอดระยะเวลาการทำงาน 4 เดือนของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลควรเริ่มดำเนินการในสิ่งที่ตนเองหาเสียงไว้ โดยในส่วนของรัฐบาลยุคที่แล้วกับยุคปัจจุบันก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก เพราะพรรคการเมืองที่มาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลส่วนใหญ่ก็มาจากพรรคเดียวกัน ไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก
ส่วนที่ตั้งคำถามว่าในสมัยของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ทำไมถึงไม่มีการยื่นอภิปรายนั้น ก็เพราะช่วง 4 ปีที่ผ่านมา การบริหารในช่วง 3 ปีแรกหมดไปกับการแก้ไขปัญหาโรคระบาดโควิด-19 อีกทั้งไม่ได้พบประเด็นปัญหามาก แต่ปัจจุบันมองเห็นปัญหาเยอะ และเป็นสิ่งที่ต้องนำมาหารือในสภาฯ อีกทั้งเราก็ไม่ได้ดูที่ตัวบุคคล หรือดูว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการยื่นตามภารกิจ หน้าที่สำคัญของสมาชิกวุฒิสภาที่จะต้องทำ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายอะไร มีแต่จะได้ประโยชน์ สิ่งสำคัญคือเราอยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้น พร้อมย้ำว่า ในช่วงระยะเวลา 3-4 เดือนที่เหลืออยู่ หวังว่าสมาชิกวุฒิสภาจะได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์สำคัญในการมายื่นมติวันนี้
นายเสรี กล่าวต่ออีกด้วยว่ากรณีที่มีฝ่ายการเมืองบางคนระบุว่าเร็วไปที่จะอภิปรายเพราะรัฐบาลบริหารราชการมาเพียง 4 เดือน ตนเองขอยืนยันว่าการอภิปรายไม่ใช่การล้มรัฐบาล แต่เป็นประเด็นที่รัฐบาลควรทำตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาและหาเสียงไว้กับประชาชน ตนเองมองว่าการยื่นญัตติครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีผลทางบวกในทางปฏิบัติที่รัฐบาลจะทำงานเพื่อประชาชน
นายเสรี ยังกล่าวอีกด้วยว่าสำหรับประเด็นที่จะอภิปราย เช่นเรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลระบุว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเด็นแหล่งที่มาของเงิน จะเป็นภาระของประเทศจำนวนมหาศาลหรือไม่ ซึ่งเมื่อย้อนไปถึงตั้งแต่ตอนหาเสียง เป็นการสัญญาว่าจะให้หรือไม่ ซึ่งเมื่อได้ทำโครงการแล้วมีช่องทางรั่วไหลหรือไม่ ทั้งนี้ในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการให้ความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ต่อนโยบายนั้น มองว่าเป็นการให้เหตุผลที่เป็นอันตรายต่อบ้านเมือง
“รัฐบาลต้องคิดให้ดีว่าจะเป็นหนี้ 5 แสนล้าน หรือควรนำเงินมาให้ประชาชนลงทุน มีงานทำ มีรายได้ยั่งยืน ซึ่งหากแจกจะของที่เป็นผลผลิต เช่น พืชไร่ เป็ด ไก่ หรือการสร้างเศรษฐกิจในครัวเรือน ให้ประชาชนดำรงชีวิตได้ดีขึ้น มีหลายวิธี ไม่ใช่แจกเงินหมื่นบาท เพราะได้ไปทุกคนก็ใช้หมด และจะเกิดหนี้มหาศาล” นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวต่อว่ากระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา หากรัฐบาลไม่รักษาความเป็นธรรมให้มั่นคง เลือกปฏิบัติ หาช่องทางที่ได้ประโยชน์ให้กับบางคนบางกลุ่ม ที่อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง มองว่าไม่จำเป็นต้องรอนาน เป็นเรื่องปัจจุบันที่นำมาอภิปรายได้ ทั้งนี้ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้เน้นที่ตัวบุคคล หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือต้องรอให้ครบกำหนดการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณ ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องยึดหลักการในกระบวนการยุติธรรมที่จริงแท้ ไม่ควรทำให้เกิดปัญหา อีกทั้งควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องปฏิบัติเท่าเทียม
ด้าน นายพรเพชร กล่าวว่าตนเองจะให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ประสานงานกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประสงค์ให้แถลงหรือชี้แจงในวันเวลาใด และใช้เวลาเท่าใด โดยจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ (22 ม.ค. 67) ทั้งนี้ตนเองจะขอตรวจสอบรายละเอียดของญัตติ ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด รวมถึงการทำงานของสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ทุกคนจะชั่งน้ำหนักได้เอง ผมพูดไม่ได้ แต่ผมเข้าใจในประสงค์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ให้รัฐบาลแถลงการณ์การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งการอภิปรายที่ได้หารือเบื้องต้นนั้น ผู้ยื่นต้องการอภิปรายในเดือน ก.พ. นี้ และใช้เวลา 2 วัน ทั้งนี้จะประสานงานร่วมกัน และพิจารณาว่าจะเหมาะสมหรือไม่ต่อไป
