ผบ.ทรภ.1 ระบุ กำลังพล ที่เสียชีวิต 6 นาย พิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อย 2 นาย
ผบ.ทรภ.1 ระบุ กำลังพล ที่เสียชีวิต 6 นาย พิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อย 2 นาย เสริม ร.ล.นราธิวาส – ร.ล.ตากสิน เข้าร่วมภารกิจค้นหา อีก 2 ลำ และเรือตรวจการแนวชายฝั่ง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (21 ธ.ค. 65) พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติการค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ยังสูญหายอีก 23 นาย พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากได้ทราบข่าวร้ายว่ามีกำลังพลเสียชีวิตจำนวน 6 นาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น ล่าสุด สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้เรียบร้อยแล้วจำนวน 2 นาย คือ เรือโทสามารถ แก้วผลึก เป็นกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย และพันจ่าเอกอำนาจ พิมที สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ขณะนี้ได้นำร่างของทั้ง 2 รายเข้าห้องเย็น เพื่อรักษาสภาพที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานแล้ว ส่วนอีก 4 รายเมื่อพิสูจน์ได้เรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
สำหรับแผนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในวันนี้ ยังคงยืนยันว่าจะค้นหาให้ครบทั้งหมดเต็มกำลังความสามารถ โดยวันนี้จากการสังเกตสภาพอากาศ ขณะนั่งเฮลิคอปเตอร์บินมาจากสัตหีบ พบว่า อากาศเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีคลื่นหัวแตกอยู่ ส่วนการปฏิบัติค้นหาทางทะเลของกองทัพเรือที่เป็นหน่วยหลัก ได้เพิ่มพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุม โดยจะมีเรือใหญ่ คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงนเรศวร และมีเรือหลวงนราธิวาส เข้ามาเพิ่มอีก 1 ลำ ซึ่งได้ขอกำลังพลมาจากกองทัพเรือภาคที่ 2 อยู่ระหว่างเดินทางเข้าพื้นที่และจะเริ่มปฏิบัติภารกิจทันทีในช่วงบ่ายวันนี้
รวมถึงเรือหลวงตากสินด้วยที่อยู่ระหว่างเดินทางมาด้วยเนื่องจากว่าเรือที่ลาดตระเวณอยู่ จะสลับสับเปลี่ยนส่งบำรุงและเติมน้ำมัน เติมเสบียงอาหาร แต่จะไม่ให้พื้นที่ไหนหลุดรอดไปได้
ขณะเดียวกันวันนี้ถือเป็นวันที่ 3 ในการค้นหาแล้ว ร่างของผู้ประสบภัยทั้งหมด น่าจะเข้าใกล้ฝั่ง เรายังได้ใช้กำลังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ในพื้นที่ของระยองและประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้ทั้ง 2 ศรชล. จังหวัด โดยมีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้อำนวยการ ศรชล. ได้จัดสรรพกำลัง ทั้งตัวอำเภอท้องถิ่นทั้งหมดที่จะลงไปช่วยกัน รวมถึงหนึ่งใน ศรชล. คือ ตำรวจน้ำ ก็จะมีเรือตรวจการณ์ 2 ลำ เรือท้องแข็ง 2 ลำ ส่วนของกรมประมง ก็มีเรือตรวจประมงอีก 2 ลำ เรือท้องแข็งอีก 1 ลำ และของกรมทรัพยากรฯอีก 1 ลำ พร้อมเจ็ทสกี ขณะนี้ปฎิบัติภารกิจอยู่ในทะเลแล้ว
และจากการที่ใช้การคำนวณแผนที่ตามโปรแกรมของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ หรือ “ซาแมพ” นั้น โอกาสในเรื่องของสภาพอากาศปิด ทำให้ผู้ประสบภัย อาจจะเล็ดลอดไปอยู่ในพื้นที่โซน 9 หรือเข้าสู่จังหวัดชุมพร โดยทางอากาศก็จะมีอากาศยานของกองทัพอากาศทำงานร่วมกับกองทัพเรือที่เรามีเครื่องบินดอร์เนีย และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำอยู่
ส่วนกองบินตำรวจก็ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์มาเสริมทัพอีก 2 ลำ เพื่อแสตนบายขึ้นไปสลับสับเปลี่ยนกันปฎิบัติภารกิจค้นหา โดยจากตลอด 3 วันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลากลางคืน จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการค้นหามากเท่าใดนัก แม้กระทั่งกลางวันเองก็ยังหายากด้วยแรงลมที่แรง และอากาศไม่เป็นใจ แต่เวลาทองตอนนี้คือช่วงเวลาที่มีแสงในการพิสูจน์ทราบและเข้าช่วยเหลือ
ขณะที่พลเรือโทพิชัย ยังระบุอีกว่า ยังมีความหวังและภาวนาขอให้เจอผู้ประสบภัยและอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ส่วนครอบครัวและญาติของผู้สูญหายที่จะเข้ามาติดต่อ ขณะนี้ได้จัดสถานที่ไว้ให้ทั้งหมดแล้ว โดยที่ท่าเรือประจวบจะเป็นศูนย์ปฎิบัติการกองทัพเรือส่วนหน้า และหน่วยต้นสังกัดของกำลังพล คือ กองเรือยุทธการณ์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเริ่มเซตภายในวันนี้ ยืนยันสามารถติดต่อมาที่นี่ได้โดยตรง และเบื้องต้นคาดว่าทุกหน่วยได้ติดต่อไปทางญาติแล้ว
ส่วนขั้นตอนของร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้น ทางเราจะพยายามรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุด และอยู่ระหว่างรอศูนย์บัญชาการกองทัพเรือ ไปพูดคุยกับญาติ แต่ทางนายกรัฐมนตรี ยืนยันแล้วว่าจะดูแลทุกนายให้ดีที่สุด โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งคนที่สามารถตอบประเด็นนี้ได้ดีที่สุด คือ “ผู้บังคับการเรือ” และโชคดีมากที่รอดชีวิตโดยตอนนี้ควรโฟกัสไปที่การช่วยเหลือผู้สูญหายเป็นหลัก
ส่วนประเด็นต่างๆ ที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือนั้น ทุกอย่างยืนยันว่า มีขั้นตอนการปฎิบัติของเรือเพราะเรือลำหนึ่งที่จะออกราชการนั่น ต้องมีขั้นตอนว่าจะทำอะไรบ้าง โดยมีผู้บังคับการเรือที่จะต้องรู้ทั้งหมด จึงอยากให้รอความชัดเจนถึงการประสบอุบัติเหตุครั้งนี้
ขณะที่ประเด็นกำลังพลที่ขึ้นเรือหลวงสุโขทัยไปนั้น ว่ายน้ำเป็นหรือไม่ ยืนยันว่า ส่วนใหญ่จะว่ายน้ำเป็นทั้งหมด ยกเว้นพลทหาร แต่ชื่อว่าการฝึกนั้นก็ต้องมีการฝึกช่วยเหลือตัวเองกลางทะเลด้วย ก่อนจะส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยจะเร่งเดินหน้าค้นหาไปจนกว่าจะพบร่างสุดท้าย เพราะทุกคนคือครอบครัวทหารเรือ
ทั้งนี้มีรายงานว่าก่อนที่เรือหลวงสุโขทัย จะออกเรือก่อนเกิดเหตุอับปาง พบว่ามีใบส่งซ่อมตัวเครื่อง แต่กลับได้รับอนุญาตให้นำเรือออกทะเลได้นั้น พล.ร.ท.พิชัย ได้ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การแจ้งซ่อมเรือนั้น จะมีหน่วยตรวจสอบรายละเอียดการซ่อมการบำรุงรักษา ซึ่งการซ่อมนั้นจะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ตู้เย็นเสีย อุปกรณ์อื่นๆ ในเรือเสีย ไม่ใช่เครื่องยนต์ และอุปกรณ์หลักในการเดินเรือ และกรณีนี้ ยังไม่ทราบว่า มีใบแจ้งซ่อม แต่เป็นคนอนุญาตให้เดินเรือได้ เพราะสภาพเครื่องยนต์ พร้อมในการออกทะเล เรือทุกลำที่ออกทะเลได้ต้องผ่านการอนุญาตจากตนเอง รวมถึงเรือหลวงสุโขทัยในวันเกิดเหตุ ซึ่งได้ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ระบบการรักษาความปลอดภัย ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง
ตอนนี้ต้องมุ่งค้นหาผู้สูญหายทั้ง 23 นาย ให้พบโดยเร็วที่สุด และเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเองและคณะได้ทำพิธีบวงสรวงขอพรสิ่งศักดิ์ ให้ช่วยดลบันดาลให้เจอทั้ง 23 คน โดยเร็ว ซึ่งในวันนี้สภาพอากาศท้องฟ้าเปิด แต่ยังมีคลื่นเป็นบางช่วง ก็มีความหวังที่จะได้รับข่าวดี
เมื่อถามถึงการที่ลูกเรือลอยคออยู่ในทะเลเกิน 48 ชั่วโมง จะส่งผลต่อความปลอดภัยหรือไม่ พลเรือโทพิชัย ชี้แจงว่า ส่วนตัวคงไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากร่างการและการฝึกฝนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ยกกรณีที่สึนามิ เป็นเด็กเกาะขอนไม้ได้ถึง 7 วัน และกินน้ำทะเลประทังชีวิตยังรอดชีวิตได้
ภายหลังจากที่ พล.ร.ท.พิชัย ได้ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ก็ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของกำลังพลที่ยังสูญหาย และได้ชี้แจงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เริ่มจากครอบครัวของพลทหารชัยชนะ ช่างวาด ที่เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เดินทางมา 2 วันแล้วด้วย












