POLITICS

‘ชัยชนะ’ เผยไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้า ปชป.คนใหม่ ต้องเข้ามาแก้จุดบกพร่องของพรรค

‘ชัยชนะ’ เผยไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้า ปชป.คนใหม่ ต้องเข้ามาแก้จุดบกพร่องของพรรค อะไรที่ยังไม่ใช่ ก็ต้องแก้ให้ถูกต้อง บอก ไม่รู้มีชื่อเป็นเลขาธิการพรรค เพิ่งทราบจากสื่อ

วันนี้ (21 พ.ย. 66) นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผู้ที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ว่า ความชัดเจนจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องไปถามคนที่มีชื่อปรากฏตามสื่อ แต่เบื้องต้นที่ตนเองทราบ คือ มีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ซึ่งมีความประสงค์ที่จะลงชิงตำแหน่งชัดเจน และได้ประกาศตัวมาตั้งแต่ต้น แต่บุคคลอื่นๆ นั้น เจ้าตัวยังไม่ออกมายืนยัน

ทั้งนี้ หากผู้ประสงค์จะลงชิงหัวหน้าพรรค เช่น นางสาววทันยา บุนนาค และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นสมาชิกไม่ถึง 5 ปี ในวันประชุมจะมีการขอยกเว้นข้อบังคับหรือไม่ นายชัยชนะ ชี้แจงว่า ตามข้อบังคับพรรคระบุว่าบุคคลที่เป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปี หากจะลงสมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรค หรือ กรรมการบริหารพรรค ก็ต้องมีเสียงยกเว้นข้อบังคับ 3 ใน 4 หากที่ประชุมในวันนั้น ยกเว้นได้ ก็สามารถลงเลือกตั้งได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสมาชิกพรรค โหวตเตอร์ทุกคนว่าจะมีความเห็นอย่างไร แต่ตนเองคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคประชาธิปไตย เมื่อถึงเวลาก็คงจะมีโอกาสเปิดทางได้

ขณะเดียวกัน วันนี้ต้องยอมรับว่าสังคมไทยคาดหวังกับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นคิดว่าผู้ที่มีชื่อทั้ง 3 คน ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมด ในการทำพรรคการเมืองทุกวันนี้เป็นการแข่งขันด้านความคิดว่าใครจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องกล้านำเสนอแก้ปัญหาประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของพี่น้องประชาชน ยาเสพติด การศึกษา จึงเห็นว่า 3 เรื่องนี้ ถ้านำเสนอได้ดี และคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 กล้าทำเรื่องนี้ เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะกลับคืนมาได้

ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค นอกจากมีชื่อนายเดชอิศม์ ขาวทองแล้ว ยังมีชื่อนายชัยชนะ เดชเดโชด้วยนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายชัยชนะระบุว่า ตนเองก็ไม่ทราบว่ามีชื่อไปลงชิงตำแหน่งได้อย่างไร แล้วก็เพิ่งทราบจากข่าว ซึ่งตนเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีชื่อเป็นแคนดิเดตชิงเลขาธิการพรรค และก็ไม่ทราบว่าชื่อตนมาได้อย่างไร แต่คิดว่าคงเป็นการประเมินของสื่อมวลชนต่างๆ แต่ในข้อเท็จจริงยังไม่มีอะไร

ส่วนเรื่องสัดส่วนการลงคะแนน 70:30 นั้น มีโอกาสจะมีการแก้ไขข้อบังคับให้เป็น 1 คน 1 เสียง เพื่อใช้ในการเลือกหัวหน้าพรรคในสมัยหน้าหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมาดูกัน ซึ่งน้ำหนักคะแนน 70:30 นั้น ได้มีการแก้ข้อบังคับไว้ตั้งแต่สมัยหัวหน้าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ การจะแก้ให้เป็น 1:1 คงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นไปได้ที่จะมีโอกาสปรับลดทอนสัดส่วนลงมา เพราะการที่จะให้ สส. ของพรรคมีน้ำหนักคะแนนเท่ากันกับองค์ประชุมข้ออื่นๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ สส. มีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบในการทำงานในสมัยประชุม หากจะลดเป็น 60:40 ก็เป็นไปได้ แต่ 1:1 นั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน

ดังนั้น การเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรครอบนี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ตาม เราต้องมาแก้ไขจุดบกพร่องของพรรค ไม่ว่าจะเป็นข้อบังคับ นโยบาย การทำงาน อะไรที่มันยังไม่ใช่ ก็ต้องแก้ปรับให้ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าคนที่ได้รับเลือกมาเป็นหัวหน้าพรรคก็มีธงอยู่แล้ว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat