POLITICS

ประธานสภาฯ ตรวจความพร้อมห้องประชุมร่วมรัฐสภา แจงปมไม่บรรจุญัตติแก้ ม.256 ยันไม่มีสิทธิ์ทำอะไรที่ละเมิดกฎเกณฑ์

นายชวน หลีกกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมด้วยนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปตรวจดูความพร้อมของห้องประชุมพระสุริยันต์ เพื่อตรียมความพร้อมการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22 ม.ย.นี้ เนื่องจากต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด -19 ของกระทรวงสาธารณสุข

นายชวน หลีกกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 มิ.ย. นี้เป็นการประชมร่วมรัฐสภา ซึ่งมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 700 กว่าคน จึงต้องไปดูความพร้อมในห้องประชุมและแท่นการอภิปราย โดยเสริมเพิ่มขึ้นมาอีก 1 จุด ตรงกลางห้องประชุม และยังคงต้องขอความร่วมมือทุกคนในเรื่องของการสวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลาที่อยู่ในอาคาร และขอร้องสมาชิกรัฐสภาว่า ผู้ที่ไม่ได้อภิปรายไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องประชุม เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น เชื่อว่าสมาชิกให้ความร่วมมือดีอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันได้เตรียมเรื่องของการลงมติในกรณี ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประชุมวันที่ 23-24 มิ.ย.รวม 13 ฉบับ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการลงมติด้วยเวลาที่ไม่นานเกินไป โดยยึดระเบียบข้อบังคับโดยเคร่งครัด ซึ่งทุกคนจะต้องพูดทั้ง 13 ฉบับว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยทุกฉบับ จากเดิมในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย จะใช้วิธีว่าเห็นด้วยฉบับที่เท่าไหร่บ้าง ไม่เห็นด้วยฉบับที่เท่าไหร่บ้าง เพราะเกรงว่าคนนับคะแนนจะสับสน จึงต้องยอมเสียเวลา รวมทั้งจะมีระบบในการตรวจสอบบันทึกไว้ด้วย

นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่มีแม่บ้านรัฐสภาฯ ติดโควิด -19 ว่า ตนได้ย้ำตลอด รวมทั้งในที่ประชุม คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา(กร.)ว่าเราไม่สามารถประมาท โควิด-19 ได้ ดังนั้น ทุกคนต้องระมัดระวัง เพราะเปิดสภาฯ มาแล้วประมาณ 1 เดือน สามารถทำงานได้โดยที่ไม่ได้มีปัญหา สภาฯ ยังไม่ได้เป็นที่แพร่เชื้อ จึงต้องทำต่อไปให้ครบ 120 วัน จึงขอทุกคนให้เข้มงวดกวดขันและขอความร่วมมือทุกฝ่าย ขออย่าเบื่อ โดยจะเห็นว่าเรื่องการสวมหน้ากากคนร่วมมือ 100 เปอร์เซนต์ ที่มีปัญหาคือเวลามีคนอภิปราย แล้วยังมีคนไปนั่งด้านหลังก็ได้เตือนกัน

ขณะเดียวกัน ประธานรัฐสภา ชี้แจงกรณีที่ไม่บรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมมาตรา 256 เรื่องการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ยืนยันว่า เคารพความเห็นของทุกคน แต่ประธานมีหน้าที่ทำตามข้อบังคับ และกฎหมายโดยเคร่งครัดว่าอะไรที่บรรจุได้ อะไรที่บรรจุไม่ได้ ซึ่งก่อนจะบรรจุระเบียบวาระ สภามีวิธีปฎิบัติอยู่แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่กลั่นกรอง และกรณีใดที่ต้องการความมั่นใจก็จะประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งความจริงไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่บางคนอาจจะไม่ได้ดั่งใจ จึงออกมาโวยวาย แต่โดยทั่วไปมีระบบอยู่แล้ว ประธานจะทำเป็นอย่างอื่นไม่ได้

ทั้งนี้ สมมุติว่า ขัดต่อระเบียบและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในกติกา กฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด โดยสุจริตและเปิดเผย ไม่มีอะไรที่เป็นลับลมคมใน และไม่มีใครมายุ่งหรือสั่ง ไม่ว่ารัฐบาลหรือใคร ซึ่งจะเป็นว่าบางครั้งอาจจะมีบางญัตติที่ไม่ตรงใจรัฐบาลด้วยซ้ำ เช่น ญัตติอภิปรายเรื่องการถวายสัตย์ฯ รัฐบาลเห็นว่า ไม่ควรบรรจุ แต่ตนก็บรรจุ เพราะเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัย เป็นแค่ให้ความเห็นเท่านั้น ดังนั้น ยืนยันทุกอย่างตรงไปตรงมา ขอย้ำว่า ประธานฯ ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรที่ละเมิดกฎเกณฑ์

ส่วนญัตติดังกล่าวถือว่า ตกไปหรือไม่นั้น นายชวน กล่าว่า ยังไม่วินิจฉัยในเรื่องนี้

Related Posts

Send this to a friend