‘พิชัย‘ ชี้ จีดีพีไตรมาสแรกโต 1.7 จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ คาด 28 พ.ค. เสนอข้อสรุปงบเข้าที่ประชุม
วันนี้ (21 พ.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพูดคุยเรื่องการของบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ซึ่งก่อนหน้านี้การประชุม ครม. เมื่อวันที่ 23 เมษายนได้มีมติเห็นชอบให้ทำโครงการดังกล่าว ในวงเงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งได้มีการมอบหมายให้สำนักงบประมาณ กับกระทรวงการคลัง หารือเรื่องแหล่งที่มาของงบประมาณ ว่าสามารถใช้ได้อย่างไรบ้าง โดยสำนักงบประมาณได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งเรามีทางเลือกที่จะใช้งบกลาง หรือเปลี่ยนงบ โดยการเปลี่ยนงบ อาจจะมีปัญหาทางเทคนิค เพราะทำให้โครงการต่าง ๆ ต้องสะดุด หรือล่าช้าไปไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ วิธีนี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
นายพิชัย กล่าวต่อว่า แม้จะมีการอนุมัติงบประมาณปี 2567 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ได้มีการเร่งใช้งบประมาณเข้าสู่ตลาดเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้เงินเป็นไปตามเป้า และดีกว่าเป้า ดังนั้น เพื่อให้โครงการนี้ได้รับผลที่ดีที่สุด คือการของบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจดูเรื่องกฎหมายด้วย คือ ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ. งบประมาณ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และที่สำคัญที่สุดต้องอยู่ในกรอบหนี้สาธารณะ โดยเฉพาะไม่ให้หนี้เกินกรอบ 70% และรายละเอียดต่าง ๆ จะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในเร็ววันนี้ เพื่อนำมาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะดำเนินต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานของไตรมาส 1 อัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ 1.7 หากเทียบกับปีที่ผ่านมาจีดีพีอยู่ที่ 2 ซึ่งต่ำกว่า และต่อมาดูว่าไตรมาสแรกจีดีพี ไม่ได้มีการติดลบ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ที่มีการติดลบ จึงทำให้เราไม่ได้อยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย แปลว่า มันเติบโต แต่โตต่ำกว่าที่เราคิดไว้ โดยศักยภาพประเทศไทยสามารถเจริญเติบโตได้มากกว่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยโครงการนี้เป็นโครงการระยะสั้น และไม่ได้หมายความว่า เราไม่ได้เห็นว่าปัญหาในประเทศไทย ที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เช่น ภาคการผลิต ด้านอุตสาหกรรมการเกษตร การดูแลเรื่องการแหล่งน้ำ การขนส่ง ส่วนด้านเทคโนโลยี จะต้องดูว่าประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตประเภทเดิม ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา โดยบางอย่างสามารถทำได้เลย เช่น สามารถทำให้ธุรกิจ หรือการลงทุนทำเร็วขึ้น แต่ภาพรวมการทำเรื่องเหล่านี้จะต้องต้องใช้ระยะเวลาตั้งแต่นี้ไปจนถึงระยะเวลาข้างหน้า เมื่อดูจากภาพรวมอันสั้น ความจำเป็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อย ๆ ชัดขึ้น ส่วนการทำโครงการนี้ต้องไปดูรายละเอียดต่อไป โดยนำความเห็นต่าง ๆ มาพิจารณา
ส่วนกำหนดกรอบเวลาเบื้องต้นหรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า มีเวลาไม่นาน เพราะสุดท้ายต้องเสนอ ครม. ก่อนสู่สภา และต้องทำให้งบเท่าเดิมก่อน ส่วนจะใช้เท่าไหร่ ต้องดูตามข้อเท็จจริง และได้กำหนดงบในปี 68 แล้ว แต่จำนวนเท่าไหร่ต้องดูให้ไม่ผิดหลักเกณฑ์งบประมาณ ไม่ผิดต่อวินัยการเงินการคลัง และไม่ขัดต่อหนี้สาธารณะ ถ้าพอก็ได้เลย ถ้าไม่พอก็หาวิธีอื่นเสริมไป
ส่วนกรอบวงเงินปี 2567 ยังเป็น 1.2 แสนล้านใช่หรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง และคาดว่าวันที่ 28 พ.ค. นี้ จะเข้า ครม. อีกครั้ง ส่วนเรื่องแพลตฟอร์มที่จะใช้นั้น เป็นวาระแยก เราไม่ได้คุยในเรื่องนั้น ซึ่งเรามีการดำเนินการเรื่อย ๆ












